กระทรวงการคลังของจีนเปิดเผยว่า รายได้ด้านการคลังของจีน ขยายตัวขึ้น 21.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 8.31 ล้านล้านหยวน หรือ 1.26 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
กระทรวงคลังระบุในแถลงการณ์ที่มีการเผยแพร่ทางเว็บไซท์ว่า รายได้ด้านการคลังของส่วนกลางสูงกว่าระดับ 4.25 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 18.3% จากระดับปี 2552 ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นสามารถจัดเก็บรายได้ 4.06 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 24.6%
ส่วนรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 23% ในปีที่แล้ว จากระดับปี 2552 แตะ 7.32 ล้านล้านหยวน
ทางกระทรวงระบุว่า รายได้ที่สูงขึ้นนี้เป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างรวดเร็ว การปรับตัวขึ้นของราคาสินค้า การซื้อที่พุ่งสูงขึ้น และภาษีอุปโภคบริโภคที่ได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ฐานในการเปรียบเทียบของปีที่แล้วอยู่ที่ระดับต่ำ
-- คณะกรรมาธิการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนธ.ค.ที่ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพ.ย.นั้น ชี้ให้เห็นว่า จีนประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งในด้านการลดความร้อนแรงของราคา
ดัชนี CPI ของจีนขยายตัว 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนธ.ค. อ่อนตัวลงต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 28 เดือนที่ 5.1% เมื่อเดือนพ.ย.เพียงเล็กน้อย
-- จีนมีแนวโน้มว่าจะขึ้นมาแทนญี่ปุ่นในฐานะประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีของจีนเมื่อปี 2553 อยู่ที่ 6.04 ล้านล้านดอลลาร์จากการคำนวณเบื้องต้น
แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขจีดีพีของญี่ปุ่นในไตรมาส 4 ปี 2553 จนกว่าจะถึงเดือนก.พ.นี้ แต่หน่วยงานวิชาการนอกภาครัฐบาลคาดว่า จีดีพีของญี่ปุ่นจะอยู่ที่ 5.4 ล้านล้านดอลลาร์
แม้ว่าจีดีพีของจีนจะยังคงขยายตัว แต่จีดีพีต่อหัวยังอยู่ในอันดับที่เกิน 100 เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆทั่วโลก นายหม่า เจียนถัง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุ สำนักข่าวซินหัวรายงาน