นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารพาณิชย์จีนที่ระดับ 1.04 ล้านล้านหยวนในเดือนม.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 1.2 ล้านล้านหยวนนั้น จะช่วยกระตุ้นภาวะการซื้อขายในตลาดพันธบัตรของจีนให้คึกคักขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารกลางจีนได้ควบคุมสภาพคล่องในตลาดอย่างเข้มงวด โดยการใช้เครื่องมือที่หลากหลายเพื่อควบคุมระดับการปล่อยเงินกู้ รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง และปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย (RRR) 4 ครั้งนับตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.2553
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่เดือนม.ค.ที่ขยายตัวน้อยเกินคาดนั้น แสดงให้เห็นว่าการบังคับใช้นโยบายการเงินอย่างรอบคอบนั้น ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนม.ค.ขยายตัวน้อยเกินคาดที่ 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ก็ยิ่งทำให้โอกาสที่ธนาคารกลางจีนจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้นนั้น ลดน้อยลงด้วย ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับตลาดพันธบัตรจีน
อย่างไรก็ตาม แรงกดดันที่จะทำให้ธนาคารกลางต้องควบคุมสภาพคล่องต่อไปนั้น ยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ยังคงอยู่เหนือระดับ 1 ล้านล้านหยวน
ส่วนการขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M1 ณ สิ้นเดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 13.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ร่วงลง 25.4% จากปีก่อน ทั้งนี้ คาดว่า การขยายตัวที่ชะลอตัวลงของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบและยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารพาณิชย์จะส่งผลกระทบในด้านลบต่อตลาดหุ้นจีน