สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มส่งคำสั่งเทขายออกมา หลังจากที่สัญญาทองคำทำสถิติพุ่งสูงต่อเนื่องยาวนานที่สุดในรอบ 6 เดือน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวลดลง 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ 1,409.3 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,400.1 - 1,412.4 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 26.8 เซนต์ ปิดที่ 32.898 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 16.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,803.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 785.45 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์ในตลาดซื้อขายทองคำกล่าวว่า ตลาดเห็นถึงสัญญาณของความวิตกกังวลที่เริ่มผ่อนคลายลง หลังมีรายงานข่าวว่า ซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกราว 8% แตะที่ประมาณ 9 พันล้านบาร์เรล/วัน เพื่อชดเชยยอดส่งออกน้ำมันจากลิเบียที่ปรับตัวลดลงอันเนื่องมาจากผลกระทบของสถานการณ์ความวุ่นวายภายในประเทศ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ความรุนแรงในลิเบียได้ส่งผลกระทบต่อผลผลิตน้ำมันดิบและกระตุ้นให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ซึ่งในกรณีเช่นนี้จะหนุนให้ตลาดทองคำได้รับแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่น เนื่องจากนักลงทุนมองว่าตลาดทองคำเป็นแหล่งลงทุนที่ช่วยป้องกันความเสี่ยง
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์เสริมว่าในระยะยาว ตลาดโลหะมีค่าจะยังคงเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดความเสี่ยงของนักลงทุนท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลางและแอฟริกา ขณะที่ความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อก็เป็นปัจจัยที่หนุนตลาดทองคำด้วยเช่นกัน