นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า บริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจจะสามารถแข่งขันและเติบโตได้ดียิ่งขึ้น หากภาครัฐแก้ไขกฎเกณฑ์เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ โดยที่กระทรวงการคลังอาจจะไม่จำเป็นต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นลงก็ได้ โดยเฉพาะประเด็นการกำหนดให้ต้องนำเรื่องต่าง ๆ เสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ และการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ที่มีการตีความกว้างเกินไป
หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจทั้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) กระทรวงการคลัง ต่างรู้ดีว่าควรแก้ไขกฎหมายใดบ้างเพื่อให้มีความคล่องตัวในการบริหารงาน อย่างเช่นกรณี บมจ.ปตท. (PTT) ที่แม้ว่ากระทรวงการคลังถือหุ้น 51% แต่การบริหารคล่องตัวเนื่องจากไม่จำเป็นต้องนำเสนอเรื่องต่างๆ เข้า ครม. เช่น งบลงทุน ทำให้ปัจจุบัน PTT และบริษัทในกลุ่ม PTT มีมูลค่าตลาด 30-40% ของตลาดรวม
นอกจากนี้ ยังเห็นด้วยว่าภาครัฐควรเปิดโอกาสให้รัฐวิสาหกิจได้ระดมทุน หรือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อที่จะมีความสามารถในการระดมทุนเพื่อขยายหรือบริหารกิจการ โดยไม่ต้องพึ่งพิงเงินงบประมาณของรัฐบาล
"ภาครัฐรู้อยู่แล้วว่าต้องแก้กฎเกณฑ์ กฎระเบียบ แต่ที่ต้องแก้คือทัศนคติของข้าราชการว่ารัฐวิสาหกิจมีพฤติกรรมกรรมโกง แต่ในทางกลับกัน รัฐวิสาหกิจกลายเป็นแหล่งที่นักการเมืองเข้ามาแทรกแซง และหาผลประโยชน์ได้ง่ายที่สุด"นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า สคร.พร้อมหารือกับ THAI หากการถือหุ้นของกระทรวงการคลัง 51% เป็นปัญหาและอุปสรรค ก็ยินดีจะพิจารณาผ่อนคลายให้ โดยการลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือ 20-40%
ขณะที่ บริษัท ทริส เรทติ้ง มีความเห็นว่า หาก THAI สละความเป็นรัฐวิสาหกิจจะมีปัญหาเกี่ยวกับอันดับความน่าเชื่อถือ (เรทติ้ง) ดังนั้น แม้ช่วงปีที่ผ่านมา THAI มีผลประกอบการที่ดีขึ้น แต่ไม่ได้เป็นการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ หรือมีความพร้อมของการออกจากรัฐวิสาหกิจ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าทางพนักงานมีความพร้อมเช่นเดียวกับผู้บริหารหรือไม่
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังพร้อมสนับสนุนแนวคิดที่ไม่จำเป็นต้องนำเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินการทุกอย่างของรัฐวิสาหกิจเสนอให้ครม.อนุมัติ เพราะบางเรื่องก็ถือเป็นความลับ เช่น งบลงทุน แต่ก็ยังควรนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภาพัฒน์
"ถ้าจะลดการกำกับดูแลในแง่ความเป็นเจ้าของเพื่อทำให้เขาแข่งขันได้ เราก็พร้อมที่จะคุย...การออกจากรัฐวิสาหกิจอาจพร้อมเฉพาะผู้บริหารคนเดียว แต่พนักงานอาจจะไม่พร้อม" นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า สคร.สนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจมีประสิทธิภาพการแข่งขัน และลดจำนวนรัฐวิสาหกิจ ซึ่งในอนาคตมั่นใจว่าจะมีจำนวนรัฐวิสาหกิจลดลง แต่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่การกระจายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ และเชื่อว่ารัฐบาลใหม่คงไม่กล้าดำเนินการ แต่การแปรรูปดำเนินการได้หลายทาง เช่นการให้สัมปทานแก่เอกชน การเข้าร่วมลงทุนกับเอกชน หรือขายกิจการให้เอกชน