นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของจีนคาดการณ์ว่า จีนจะแซงหน้าสหรัฐและขึ้นแท่นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ภายในระยะเวลา 10-20 ปี
นายเฉียน หยิงหยี นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของจีนและคณบดีโรงเรียนเศรษฐศาสตร์และการบริหารแห่งมหาวิทยาลัยชิงหัว กล่าวว่า จีนจะกลายเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกก่อนปี 2563 เกือบแน่นอน ในแง่ของความเสมอภาคของอำนาจซื้อ (purchasing power parity: PPP)
ในปี 2552 เศรษฐกิจจีนมีสัดส่วน 35% ของสหรัฐ หรือราว 4.9 ล้านล้านดอลลาร์ต่อ 14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามอัตราแลกเปลี่ยนในเวลานั้น
"หากส่วนต่างของอัตราการเติบโตที่แท้จริงระหว่างจีนกับสหรัฐยังมีอยู่อย่างน้อย 5% และอัตราการแข็งค่าของเงินหยวนเมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐมีอยู่อย่างน้อย 2% ต่อปี จีนจะแซงหน้าสหรัฐภายในเวลาไม่ถึง 16 ปี หรือก่อนปี 2568" นายเฉียนกล่าวจีนขึ้นแท่นเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกในปี 2553 หลังจากที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยเกิน 9% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 32 ปีที่ผ่านมา
นายเฉียนกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงความมั่นคงของเศรษฐกิจมหภาค อัตราเงินออมที่สูง ตลาดแรงงานที่ยืดหยุ่น และนโยบายที่เปิดกว้าง
นายเฉียนมีถ้อยแถลงดังกล่าวระหว่างการประชุม World Congress of the International Economic Association (IEA) ครั้งที่ 16 ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยชิงหัวเป็นเวลา 5 วัน โดยมีนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังหลายท่านเข้าร่วมการประชุม อาทิ นายโจเซฟ อี สติกลิตซ์, นายเอริค มาสกิน, นายมาซาฮิโกะ อาโอกิ, นายหวู จิงเหลียน และนายหลิน หยีฟู
ทั้งนี้ นายเอริค มาสกิน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2550 เป็นผู้ดูแลนายเฉียน หยิงหยี ช่วงที่เขาอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเมื่อช่วงกลางทศวรรษ 1980 ถึงปลายทศวรรษ 1990 สำนักข่าวซินหัวรายงาน