เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของฟิลิปปินส์ปรับตัวลดลง 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ 552 ล้านดอลลาร์ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทั่วโลกที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนลง
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์รายงานวันนี้ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังเรื่องการลงทุนเนื่องจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจญี่ปุ่นและสหรัฐ วิกฤติหนี้สินในยุโรป และสถานการณ์ความวุ่นวายในตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้ แต่อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวระบุว่า ฟิลิปปินส์ยังได้รับเม็ดเงินลงทุนโดยตงจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพราะมีเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นและแนวโน้มการเติบโตที่ดี
ทั้งนี้ ยอดทุนไหลเข้าสุทธิตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายนลดลง 1% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ 101 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ยอดบัญชีทุนที่ไหลเข้าประเทศอยู่ที่ 283 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2554 เมื่อเทียบกับเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิ 357 ล้านดอลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากบริษัทแม่ในต่างประเทศให้สินเชื่อแก่บริษัทลูกภายในประเทศน้อยลง
นอกจากนี้ ยอดรายได้ที่นำกลับมาลงทุนใหม่ยังลดลง 12.04% สู่ 168 ล้านดอลลาร์ในช่วง 4 เดือนแรกของปี
นักลงทุนของฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐ สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ และส่วนใหญ่จะลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ เหมืองแร่ การผลิต ค้าส่งและค้าปลีก สาธารณูปโภค และก่อสร้าง