สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันก่อน นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีข่าวคืบหน้าเกี่ยวกับข้อตกลงการลดยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐ และตัวเลขการสร้างบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดในสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,601.1 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,585.20-1,610.70 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 12.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.221 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 4.403 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ ปิดที่ 1,776.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 3.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 798.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า แม้ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน แต่สัญญาทองคำได้ปรับฐานลงเมื่อคืนนี้เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงลดความต้องการถือครองทองคำ หลังจากมีข่าวคืบหน้าเกี่ยวกับข้อตกลงการลดยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐ และตัวเลขการสร้างบ้านเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด 14.6% สู่ระดับ 629,000 ยูนิตต่อปีในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.
ส่วนสถานการณ์ในยุโรปนั้น ล่าสุดมีรายงานว่านายอีวอล์ด โนวอทนี สมาชิกสภาบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า "ข้อเสนอในการใช้แผนบางอย่างเพื่อจัดการกับการผิดนัดชำระหนี้ระยะสั้นในยุโรปนั้น จะไม่ก่อให้เกิดผลลบตามมา"
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่นายโนวอทนีส่งสัญญาณว่าอีซีบีอาจจะยอมรับแนวคิดในเรื่องการกู้วิกฤติหนี้กรีซนั้น ช่วยให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปจะได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น