ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมอีกในการประชุมเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายปลายสัปดาห์นี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลที่เพิ่มมากขึ้นในการยับยั้งผลกระทบเชิงลบจากการแข็งค่าของเงินเยนที่มีต่อบริษัทเอกชน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าววงในว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของบีโอเจจะจัดการประชุมเป็นเวลา 2 วันซึ่งเริ่มต้นในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวหนึ่งที่น่าเป็นไปได้คือการขยายโครงการซื้อสินทรัพย์มูลค่า 40 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นโครงการที่บีโอเจมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายเงื่อนไขด้านการออกสินเชื่อด้วยการซื้อสินทรัพย์ทางการเงินเช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ และกองทุนอีทีเอฟ (exchange-traded fund)
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมีมุมมองว่า บีโอเจจะไม่สามารถควบคุมผลกระทบจากด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์และสกุลเงินสำคัญอื่นๆ ด้วยวิธีผ่อนคลายเงื่อนไขทางการเงินได้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นในขณะนี้อยู่ในระดับ 0% อยู่แล้ว
ทั้งนี้ บีโอเจเผชิญแรงกดดันมากขึ้นเรื่อยๆในการตัดสินใจบางอย่าง ในขณะที่มีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่ารัฐบาลอาจดำเนินการแทรกแซงสกุลเงินเพื่อทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงและปกป้องกลุ่มผู้ส่งออกของญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และบริษัทด้านเทคโนโลยีมิให้สูญเสียความสามารถด้านการแข่งขันในระดับโลก
เมื่อเดือนมีนาคมที่ รัฐบาลญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการเทขายเงินเยนเป็นจำนวนมากและซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐโดยได้หารือร่วมกับกลุ่มประเทศจี-7 ซึ่งประกอบด้วยอังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสหรัฐอเมริกา หลังจากที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 76.25 เยนนับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกเป็นต้นมา