ผู้เชี่ยวชาญของธนาคารในประเทศจีนเปิดเผยว่า การที่ธนาคารบางแห่งของจีนยังคงทำชอร์ตโพสิชัน (สถานะการขายออกแล้วซื้อกลับ) สัญญาทองคำในตลาดล่วงหน้านั้น มีเป้าหมายที่จะป้องกันความเสี่ยงมากกว่าที่จะเก็งกำไร และคาดว่า ธนาคารเหล่านี้อาจจะไม่ขาดทุน แม้ราคาทองคำพุ่งขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็ตาม
ณ วันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ธนาคาร 4 แห่งของจีน ซึ่งได้แก่ อินดัสทรี แบงก์, อะกริคัลเจอรัล แบงก์ ออฟ ไชนา, ไชนา หมิงเฉิน แบงกิง คอร์ป และเอสพีดี แบงก์ ได้เข้าทำชอร์ตโพสิชันสัญญาทองคำเดือนธ.ค.ในตลาดทองคำล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ (SHFE) ในปริมาณ 2,655 ล็อต, 2,020 ล็อต, 1,869 ล็อต และ 1,314 ตามลำดับ ซึ่งนับเป็น 4 ธนาคารมีสถานะการทำชอร์ตโพสิชันสูงสุด
ทั้งนี้ การที่ธนาคารทั้ง 4 แห่งมีสถานะการทำชอร์ตโพสิชันสูงสุดนั้น ได้กระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวลในตลาดว่า ธนาคารเหล่านี้อาจจะขาดทุนมูลค่ามหาศาลเมื่อราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
นายจาง จีกัง ผู้เชี่ยวชาญจากอะกริคัลเจอรัล แบงก์ ออฟ ไชน่า กล่าวว่า แม้อะกริคัลเจอรัล แบงก์ ออฟ ไชน่า ขาดทุนบางส่วนในตลาดทองคำล่วงหน้า แต่ธนาคารก็มีกำไรในตลาดสปอต พร้อมกับกล่าวว่า การขายสัญญาทองคำในตลาด SHFE ก็เป็นเพียงจำนวนเงินบางส่วนในพอร์ทที่ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดทองคำมีความผันผวนเท่านั้น
นอกจากนี้ นายจางกล่าวว่า การลงทุนในลักษณะป้องกันความเสี่ยง (hedging) จะช่วยทำกำไร และคาดว่าทางธนาคารจะไม่ขาดทุนเป็นเงินจำนวนมาก
ด้านนายเจียง ชู นักวิเคราะห์จากอินดัสทรี แบงก์ กล่าวว่า ธนาคารหลายแห่งให้บริการจัดหาผลิตภัณฑ์ทองคำแท่งและสัญญาทองคำ จึงทำให้ธนาคารจำเป็นต้องป้องกันความเสี่ยงผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในตลาดล่วงหน้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน