จาง ผิง ประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) ซึ่งเป็นหน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจสูงสุดของจีน กล่าวว่า การคาดการณ์เกี่ยวกับเงินเฟ้อในจีนอาจเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและราคาสินค้ามีแนวโน้มว่าจะยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้เป้าหมายในการควบคุมราคาของรัฐบาลทำได้ยากยิ่งขึ้น
"ทั่วโลกจะยังคงมีสภาพคล่องอยู่อย่างมากมายในระยะสั้น และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากการนำเข้าไม้ได้ผ่อนคลายลงมากนัก" เขากล่าวนายจางแสดงความคิดเห็นดังกล่าวในรายงานผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ โดยเขาเสนอรายงานต่อที่ประชุมฝ่ายนิติบัญญัติของคณะกรรมการประจำสภาประชาชนแห่งชาติ (Standing Committee of NPC) ซึ่งจัดขึ้นทุกๆสองเดือน
นายจางระบุว่า ปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ราคายังคงอยู่ในระดับสูงได้แก่ ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น การขาดแคลนอุปทานสินค้าเกษตรประจำฤดูกาล และความเป็นไปได้ในการเกิดภัยธรรมชาติ
ราคาเนื้อหมู ซึ่งเป็นอาหารหลักของจีน พุ่งขึ้น 56.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติสูงสุดในรอบ 37 เดือน
ส่วนในช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ ดัชนี CPI ของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.5% จากปีก่อน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าเป้าหมายสูงสุดสำหรับปีนี้ของรัฐบาลที่ 4% เป็นอย่างมาก
นายจางกล่าวว่าการฟื้นตัวอย่างกระท่อนกระแท่นของเศรษฐกิจโลกทำให้การควบคุมเศรษฐกิจในระดับมหภาคของจีนมีความซับซ้อนมากขึ้น
"เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว แต่ในทางที่เปราะทางและไม่สมดุลเป็นอย่างมาก" นายจางกล่าวต่อที่ประชุม
นอกจากนี้ เขายังกล่าวเสริมว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากการขยายตัวที่ซบเซา อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และปัญหาหนี้สินที่เรื้อรังในสหรัฐ ยูโรโซน และญี่ปุ่น สำนักข่าวซินหัวรายงาน