สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) เพราะได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ความต้องการทองคำในภูมิภาคเอเชียและยุโรปจะยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำและย้ายเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้น หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับรายงานยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดบวก 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.1% แตะที่ 1,831.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 30.4 เซนต์ ปิดที่ 41.768 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.3 เซนต์ ปิดที่ 4.2045 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 3.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,856.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 11.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 790.45 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำยังคงปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากเทรดเดอร์คาดว่า นักลงทุนจะยังคงเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องในเดือนก.ย. เนื่องจากใกล้จะถึงช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองและเทศกาลวิวาห์ในประเทศอินเดีย นอกจากนี้คาดว่า เทศกาลวันหยุดยาวในประเทศจีนซึ่งจะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนต.ค.นี้ จะช่วยให้ปริมาณการซื้อทองคำสูงขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำค่อนข้างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและย้ายเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้น หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมภายที่พุ่งขึ้นเกินคาด 2.4% ในเดือนก.ค. และรายงานของ ADP ที่ระบุว่าภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 91,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีภาคการผลิตและตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร โดยคาดว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบ่งชี้ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำสัปดาห์นี้