วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของญี่ปุ่น กำลังมองหาโอกาสทำธุรกิจในตลาดต่างประเทศผ่านทางฮ่องกง ขณะที่ตลาดในประเทศฟื้นตัวจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิล่าช้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า โจนาธาน ชอย ประธานคณะกรรมการความร่วมมือทางธุรกิจฮ่องกง-ญี่ปุ่น ซึ่งได้พาตัวแทนภาคธุรกิจ 20 รายมายังญี่ปุ่นเมื่อเดือนก.ค. เพื่อสร้างโอกาสในการทำธุรกิจในญี่ปุ่น กล่าวว่า ในขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวจากภัยพิบัติอย่างช้าๆ กลุ่มเอสเอ็มอีก็เริ่มมองหาโอกาสที่จะทำธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะในจีน
นายชอยกล่าวกับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมด้านเศรษฐกิจฮ่องกง-ญี่ปุ่นว่า เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทใหญ่ๆแล้ว จะเห็นได้ว่า เอสเอ็มอีของญี่ปุ่นขาดแคลนเงินทุน กำลังคน และความรู้ในเรื่องภาษาและวัฒนธรรมสำหรับการที่จะเข้าไปทำตลาดในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่จะทำให้การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงการระดมทุน เป็นเรื่องง่ายขึ้น
ชอยกล่าวว่า ก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติในญี่ปุ่นนั้น เอสเอ็มอีส่วนใหญ่มุ่งเน้นที่ตลาดภายในประเทศ แต่ปัจจุบันเอสเอ็มอีกำลังหาลู่ทางใหม่ๆเพื่อทำธุรกิจ ซึ่งการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับหุ้นส่วนในฮ่องกงภายใต้สิทธิประโยชน์ของระบบกฎหมายจารีตประเพณี จะทำให้บริษัทต่างๆสามารถเข้าถึงจีนได้โดยง่าย
นายยูจิ คุมามารุ กงสุลญี่ปุ่นประจำฮ่องกง กล่าวว่า การส่งออกอาหารและธุรกิจท่องเที่ยวของญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวขึ้น ส่วนอุตสาหกรรมห่วงโซ่อุปทานการผลิตก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยฐานการผลิตกว่า 80% ที่ได้รับผลกระทบนั้น ฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับที่เทียบเท่ากับช่วงก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติ หรืออาจจะสูงกว่าเสียอีก อย่างไรก็ดี การส่งออกภาคการเกษตรและประมงไปยังฮ่องกงลดลง 23.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมิ.ย. ซึ่งสถานการณ์ยังค่อนข้างลำบาก