กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.55 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 33.25 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายผันผวนในช่วง 33.07-33.46 บาท/ดอลลาร์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านแล้ว เงินดอลลาร์แข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ โดยได้แรงหนุนจากข้อตกลงระงับภาษีศุลกากร 90 วัน ที่ประกาศเมื่อวันที่ 12 พ.ค.68 ซึ่งลดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งกระตุ้นความหวังว่านโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์อาจไม่ส่งผลกระทบรุนแรงมากนักต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) สหรัฐฯพุ่งขึ้นท่ามกลางการปรับมุมมองของนักลงทุนที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจลดดอกเบี้ยช้าลง
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ลดช่วงบวกหลังข้อมูลบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯแผ่วลง ส่วนประธานเฟดระบุถึงโอกาสที่เงินเฟ้อจะผันผวนมากขึ้นในระยะข้างหน้า สู่ยุคที่เกิดภาวะช็อกด้านอุปทานถี่ขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทย 4,361 ล้านบาท และ 20,257 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ มองว่าอิทธิพลของกระแสข่าวเกี่ยวกับนโยบายการค้าอาจเบาลงชั่วคราวขณะที่ตลาดการเงินโลกจะมุ่งความสนใจไปที่สุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม แม้สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯลดระดับลง แต่ในภาพรวมทิศทางการค้าโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งนี้ พัฒนาการต่างๆสนับสนุนมุมมองของเราที่ว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงในระยะกลางถึงยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากข้อมูลในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้าส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้นว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯอ่อนแอลง ส่วนกรณี Moodys ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯจากขั้นสูงสุดอาจส่งผลจำกัดต่ออัตราแลกเปลี่ยนขณะที่ S&P และ Fitch ได้ปรับลดไปแล้วหลายปีก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวตอกย้ำแรงกดดันด้านการคลังของสหรัฐฯ ในระยะถัดไป
ส่วนปัจจัยในประเทศ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะรายงานข้อมูลจีดีพีไตรมาส 1/68 ซึ่งตลาดคาดว่าเศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบปีต่อปี (y-o-y) ทางด้านข้อมูลภาคท่องเที่ยวบ่งชี้ว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-11 พ.ค.68 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมอยู่ที่ 12,948,032 คน ลดลง 1.04% โดยในเดือน เม.ย.68 นักท่องเที่ยวจีนลดลงมากเกือบ 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เพิ่มความท้าทายต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยอีกทางหนึ่ง