
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติปรับลดอัตราเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมันดีเซลลงอีก 65 สตางค์/ลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.68 เป็นต้นไป เพื่อช่วยพยุงราคาขายปลีกน้ำมันหน้าสถานีบริการให้กับประชาชน และลดผลกระทบจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง
ปัจจุบันปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันในตลาดโลกมาจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุดน้ำมันดิบดูไบขยับขึ้นมาอยู่ที่ 76.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับสูงขึ้นอีกครั้งอยู่ที่ 97.51 ดอลลาร์/บาร์เรล และราคาน้ำมันเบนซินอยู่ที่ 88.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ในรอบสัปดาห์ที่ กบน.มีมติปรับลดอัตราเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯ ให้กับประชาชนตั้งแต่วันที่ 16-17 มิ.ย.68 และ 19-20 มิ.ย.68 โดยใช้เงินช่วยพยุงราคาน้ำมันดีเซล เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้ปรับขึ้น ซึ่งจากมาตรการล่าสุดส่งผลให้รายรับของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทน้ำมันดีเซล ปัจจุบันกลับมาติดลบอยู่ที่วันละ 20.73 ล้านบาท ขณะที่รายรับจากกลุ่มน้ำมันเบนซินยังคงอยู่ที่ประมาณวันละ 72.88 ล้านบาทเท่าเดิม
"แม้กองทุนน้ำมันฯ จะต้องมีสภาพคล่องน้อยลงจนรายรับจากน้ำมันดีเซลกลับมาติดลบ แต่ กบน.ยังคงเดินหน้าพยุงราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา และผลกระทบต่อเศรษฐกิจและค่าครองชีพให้กับประชาชนในช่วงที่ราคาน้ำมันโลกผันผวน โดยใช้อัตราการเก็บเงินของกองทุนน้ำมันฯ เป็นกลไกสำคัญในการดูแลด้านราคาให้กับประชาชน ภายใต้กรอบของพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 ทั้งนี้ กบน.ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมปรับมาตรการให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างรอบด้าน" นายพรชัย กล่าว