ครม.ไฟเขียวมาตรการภาษีจูงใจปชช.ติดตั้ง Solar rooftop ในบ้าน-ปรับเปลี่ยนเครื่องจักร

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 24, 2025 16:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแนวทางการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานทดแทนด้วยมาตรการทางภาษี 2 มาตรการ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุนการผลิต และส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่


- มาตรการส่งเสริมการติดตั้ง Solar rooftop ในบ้านอยู่อาศัยด้วยมาตรการทางภาษี เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนลงทุนติดตั้ง Solar rooftop เพื่อเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนและลดภาระค่าไฟฟ้าในครัวเรือน โดยมีเป้าหมายส่งเสริมการติดตั้ง Solar rooftop ในภาคครัวเรือนทั่วประเทศ และเพิ่มสัดส่วนของมาตรการการใช้พลังงานหมุนเวียน


*กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่

ประชาชนกลุ่มบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้ง Solar rooftop ในส่วนสิทธิประโยชน์ทางภาษี จะสามารถนำเงินลงทุนในการติดตั้งระบบ Solar rootop มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมตา ในวงเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 2 แสนบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) คาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว 20,250 ล้านบาท และช่วยลดการใช้ไฟฟ้าของประเทศ 584 ล้านหน่วย/ปี และลดการนำเข้า LNG เพื่อผลิตไฟฟ้าได้ 2,100 ล้านบาท และลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ 2.65 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี


*เงื่อนไขการดำเนินการ ได้แก่

เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 (เฉพาะบ้านอยู่อาศัย), เป็นผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 40 (1) - (8) แห่งประมวลรัษฎากร ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล, ชื่อผู้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี 1 บุคคล ต้องตรงกับชื่อเจ้าของมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านอยู่อาศัย, สิทธิการลดหย่อนภาษี 1 บุคคลต่อ 1 มิเตอร์ต่อ 1 ระบบ, ระบบ Solar rooftop ที่ติดตั้งต้องเป็นระบบ On-grid และมีกำลังการผลิตติดตั้งไม่เกิน 10 กิโลวัตต์สูงสุด (KWp) ต่อหลัง, ต้องเป็นระบบที่มีการจัดซื้อ ติดตั้ง และยื่นขออนุญาตเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย, มีหลักฐานใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ (Tax Invoice) ของการจัดซื้อและติดตั้งระบบ Solar rooftop และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เอกสารขออนุญาตเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้า


- มาตรการส่งเสริมการลงทุนและการปรับเปลี่ยนครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงานด้วยมาตรการทางภาษี เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนและปรับเปลี่ยนเครื่องจักร อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้บริโภคสนใจลงทุนในอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน และผลักดันให้มีการเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น


*กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่

1.ประชาชนผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) (6) (7) และ (8) แห่งประมวลรัษฎากร พ.ศ.2481 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

2.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ในส่วนสิทธิประโยชน์ทางภาษี จะหักทำใช้จ่าย/รายจ่ายในการซื้อหรือการลงทุนในทรัพย์สินประเภทวัสดุอุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่ช่วยประหยัดพลังงานได้จำนวน 1.5 เท่าของรายจ่ายจริง คาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว 254,063 ล้านบาท และช่วยลดการใช้ไฟฟ้าของประเทศ 30,268 ล้านหน่วย/ปี และลดการนำเข้า LNG เพื่อผลิตไฟฟ้าได้ 110,188 ล้านบาท และลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ 15.34 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี


*เงื่อนไขการดำเนินการ ได้แก่

การใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินประเภทวัสดุ เครื่องจักร และอุปกรณ์ที่สามารถเข้าร่วมมาตรการได้ต้องได้รับการรับรองฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง หรือฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานระดับ 5 ดาวจากกระทรวงพลังงาน, ทรัพย์สินประเภทวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักร ต้องอยู่ในราชอาณาจักรและไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ได้มาและพร้อมใช้งานตามวัตถุประสงค์ภายในวันที่ 31 ธ.ค.71 ไม่เป็นทรัพย์สินที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวร้องกับทรัพย์สินนั้น และ ไม่เป็นทรัพย์สินที่นำไปใช้ในกิจการที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนหรือกฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก


สำหรับการดำเนินการทั้ง 2 มาตรการข้างต้นจะส่งผลให้เกิดการสูญเสียรายได้ของรัฐรวมทั้งสิ้นประมาณ 27,956.35 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ