
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า วันนี้ได้หารือกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และภาคธุรกิจที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ โดยเป็นการประชุมเตรียมความพร้อมรับมือผลลัพธ์จากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ว่าจะออกมาทางไหนบ้าง โดยได้มอบการบ้านให้แต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องไปประเมิน เพราะแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมก็จะได้รับผลกระทบที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากลักษณะธุรกิจมีความแตกต่างกัน ดังนั้นปัญหาที่แต่ละกลุ่มจะได้รับ ก็จะแตกต่างกันไปด้วย ซึ่งเมื่อแต่ละกลุ่มทำการบ้านเรียบร้อยแล้วให้ส่งกลับมา เพื่อกระทรวงการคลังจะได้รู้ว่าควรจะกำหนดมาตรการในการให้ความช่วยเหลืออย่างไร โดยยืนยันว่ากระทรวงการคลัง ได้คิดไว้แล้วว่าจะมีมาตรการใดบ้าง และเครื่องมือใดจะเหมาะกับใครบ้าง
นายพิชัย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการหารือที่ลงในรายละเอียดมากขึ้น จากเมื่อก่อนที่ประเมินกันว่าเรื่องภาษีสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบแค่กับภาคส่งออก แต่เมื่อมาดูข้อมูลแล้ว จะพบว่าอัตราภาษีที่จะเกิดขึ้นมีผลกระทบกับหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มที่เป็นสินค้าไทย กลุ่มที่มีส่วนประกอบเป็นสินค้าไทยไม่ถึงเปอร์เซ็นต์ที่สหรัฐฯ กำหนด ดังนั้นเมื่ออัตราภาษีแตกต่างกัน ทำให้แต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบที่แตกต่างกัน
"ให้เขากลับไปทำการบ้านกันมาก่อน ถึงจะสรุปรายละเอียดได้ วันนี้เป็นการหารือกันเพื่อเตรียมเรื่องผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นจะมีการส่งการบ้านกลับมาที่ผมในวันศุกร์ที่ 11 ก.ค. นี้ และถ้าข้อมูลยังไม่เพียงพอ ก็สามารถเรียกมาคุยกันใหม่ได้ ซึ่งในส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับการนัดหารือของรัฐบาลที่บ้านพิษณุโลก แต่ยืนยันว่า จะได้ข้อสรุปทั้งหมดก่อนวันที่ 31 ก.ค.นี้ อย่างแน่นอน" นายพิชัย กล่าวขณะที่ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากหารือเบื้องต้นแล้ว แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุป แต่รู้สึกสบายใจมากขึ้น และมองเห็นแนวโน้มหรือสัญญาณที่ดี พร้อมทั้งให้กำลังใจทีมไทยแลนด์ในการทำงานครั้งนี้