ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในวันนี้เห็นชอบนำแนวทางในการกำกับดูแลและส่งเสริมการประกอบกิจการโทรทัศน์ที่ทางสำนักงานเสนอมา ไปรับฟังความคิดเห็นจากอุตสาหกรรมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสรุปผลภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นพื้นฐานให้สำนักงาน กสทช. นำไปจัดทำ (ร่าง) แผนที่นำทาง (Roadmap) กิจการโทรทัศน์และการแพร่ภาพและเสียงของประเทศไทย เตรียมให้ทันก่อนใบอนุญาตประกอบกิจการดิจิทัลทีวีประเภทธุรกิจหมดอายุปี 2572
นางสาวมณีรัตน์ กำจรกิจการ ผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช. สายงานกระจายเสียงและโทรทัศน์ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปสำนักงานจะรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องภายในไตรมาสที่ 4 (เดือนตุลาคม 2568) ก่อนจะนำเสนอผลการรับฟังความคิดเห็นเพื่อกับบอร์ด กสทช.เพื่อจัดทำโรดแมพฉบับสมบรูณ์
คณะกรรมการ กสทช.ได้มีการพิจารณาบทวิเคราะห์ฉากทัศน์ในอนาคตของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ และแนวทางในการกำกับดูแลและส่งเสริมการประกอบกิจการโทรทัศน์ของไทย ซึ่งสำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการวิเคราะห์ต่อเนื่องจากผลการศึกษาโครงการจ้างที่ปรึกษาฉากทัศน์กิจการแพร่ภาพกระจายเสียงในอนาคตของไทยภายใต้สภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อที่จะนำไปจัดทำ (ร่าง) แผนที่นำทาง (Roadmap) กิจการโทรทัศน์และการแพร่ภาพและเสียงของประเทศไทย โดยบอร์ด กสทช. ได้รับฟังการบรรยายสรุปของสำนักงาน กสทช. และอภิปรายถึงประเด็นต่าง ๆ เช่น นิยามของกิจการโทรทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไป การเข้าถึงบริการโทรทัศน์ในอนาคต การกำกับดูแล Streaming Platform ต้นทุนที่สูงขึ้นและความคุ้มค่าในการใช้ MUX สำหรับการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล
บอร์ด กสทช.ได้มีมติให้สำนักงาน กสทช. นำบทวิเคราะห์และข้อเสนอต่าง ๆ ทั้งที่ทางสำนักงานเสนอมา และที่บอร์ดได้อภิปรายระหว่างการประชุม ไปรับฟังความคิดเห็น ซึ่งหากสรุปผลได้ภายในสิ้นปีนี้จะทำให้สามารถเตรียมการได้ทันเวลาก่อนที่ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ของผู้ให้บริการช่องรายการดิจิทัลทีวีประเภทธุรกิจจะสิ้นสุดลงในเดือนเมษายน ปี 2572
ส่วนประเด็นที่จะนำไปรับฟังความคิดเห็น จะรวมถึงประเด็นต่าง ๆ เช่น การบริหารทรัพยากรคลื่นความถี่ โครงข่ายฯ และการอนุญาต เช่น การขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่จะต้องใช้การประมูลเช่นเดิมหรือให้ผู้ประกอบกิจการโครงข่ายมีหน้าที่ขอรับใบอนุญาต หรือพิจารณาใช้แนวทางอื่นนอกเหนือจากการประมูล หรือเป็นการประมูลแบบมีเงื่อนไขเพิ่มเติม จำนวนช่องรายการและการกำหนดระดับความคมชัด การใช้งานคลื่นความถี่สำหรับกิจการทีวีดาวเทียม การสร้างกรอบการกำกับดูแลที่ยืดหยุ่น การทบทวนและปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบให้มีความทันสมัย การลดภาระต้นทุนอื่นที่เกิดจากการกำกับดูแล กฎ Must Carry เป็นต้น
ด้านนางสาวพิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า การส่งเสริมอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในช่วงเปลี่ยนผ่าน (ออนไลน์ ไมเกรชั่น) สู่การกำหนดแนวทางทีวีดิจิทัลหลังปี 2572 ภายใต้โครงการศึกษาฉากทัศน์กิจการแพร่ภาพกระจายเสียงฯ หลังสิ้นสุดใบอนุญาต ในปี 2572 เพื่อประกอบการวางแนวทางและนโยบายรองรับกิจการโทรทัศน์ในอนาคตนั้น กำลังอยู่ระหว่าง "กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง"
โดยขณะนี้ กสทช. ได้ริเริ่มและเป็นตัวกลาง ในการเปิดเวทีหารือเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของต้นแบบ"แพลตฟอร์มสตรีมมิงแห่งชาติ" ที่จะบูรณาการเนื้อหาจาก "ช่องโทรทัศน์ภาคพื้นดิน โฆษณา และ ข้อมูลผู้บริโภค" ให้อยู่ในระบบเดียวกัน และบริหารจัดการบริการเสริมที่วิ่งบนโครงข่าย (Over the top : โอทีที) ที่ถือเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลเข้ามาเป็นช่องทางในการเผยแพร่เนื้อหาสำคัญและกำลังได้รับความนิยม
ฉากทัศน์อนาคตทีวีไทย
ฉากทัศน์ที่ 1 : ทีวีไทยล่มสลาย รัฐไม่แทรกแซง ไม่มีมาตรการใดๆ กิจการ Broadcast เดิม กับ OTT ยังคงกำกับดูแลต่างกัน แพลตฟอร์มระดับโลก (GAFAM) ยึดครอง ผู้บริโภคหันไปดูทีวีผ่าน OTT แทน ผู้ให้บริการ TV ดั้งเดิม สูญเสียรายได้ค่าโฆษณาจนต้องปิดตัวลง คนจน คนแก่ เสียสิทธิ เข้าถึงบริการสาธารณะ
ฉากทัศน์ที่ 2 : ทีวีไทยพอแข่งขันได้ (ระยะหนึ่ง) มีกฎหมายกำกับดูแลเกิดเป็นตลาดที่ผสมผสานแพลตฟอร์ม OTT ระหว่างผู้ประกอบการไทย มีมาตรการสนับสนุนให้ทีวี กับผู้ประกอบการระดับโลกดั้งเดิมเข้าสู่ตลาดสตรีมมิ่งผู้ประกอบการรายใหญ่ฝั่ง BVOD USA กับฝั่ง Asia แข่งกัน แต่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปเพื่อครอบครองกิจการไทยตามกลไกตลาด ไม่มีการกระตุ้น ไม่แทรกแซง เปรียบเหมือนปลาใหญ่กินปลาเล็ก
ฉากทัศน์ที่ 3 : ทีวีไทยสู่แพลตฟอร์มระดับโลก ปฏิรูปองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งตันน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ กำจัดเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เป็นอันตรายต่อกลุ่มเปราะบาง รวมถึงข่าวปลอมทั้งหลาย และจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะ
1. Regulatory Authority for Digital Audiovisual Media (RADAM) : องค์กรขับเคลื่อนเชิงนโยบาย การกำกับดูแล แนวทางการส่งเสริมสนับสนุน
2. Thai Audiovisual Industry Council (TAVIC) : องค์กรขับเคลื่อนเชิงปฏิบัติ นำนโยบายของ RADAM : มาพัฒนา
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 นายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) พร้อมผู้บริหารสมาคมฯ เข้ายื่นหนังสือถึง ประธานกรรมการ กสทช. เพื่อทวงถามถึงความคืบหน้าในการนำเรื่อง Roadmap ทีวีดิจิทัล ในปี 2572 ซึ่งมีการบรรจุวาระมาแล้วหลายครั้งแต่ยังไม่ได้รับการพิจารณา โดยภาคอุตสาหกรรมต้องการให้มีการพิจารณาโดยเร็วจะได้รับทราบถึงทิศทางของกิจการโทรทัศน์ในอนาคตเพื่อวางแผนเตรียมการล่วงหน้าก่อนที่ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ของผู้ให้บริการช่องรายการดิจิทัลทีวีประเภทธุรกิจจะสิ้นสุดลง