มติกบน.ลดราคาดีเซล-เบนซิน 50 สต./ลิตร มีผลพรุ่งนี้ ช่วยบรรเทาค่าครองชีพปชช.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 3, 2025 12:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มติกบน.ลดราคาดีเซล-เบนซิน 50 สต./ลิตร มีผลพรุ่งนี้ ช่วยบรรเทาค่าครองชีพปชช.

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติเห็นชอบปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับน้ำมันดีเซลลง 50 สตางค์/ลิตร รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมัน ปรับลดราคาเบนซินลงด้วย 50 สตางค์/ลิตรด้วย ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหน้าสถานีบริการน้ำมัน ลดเหลือ 31.44 บาท/ลิตร (จากเดิม 31.94 บาท/ลิตร) และกลุ่มเบนซินทุกชนิด ลดลง 50 สตางค์/ลิตร โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (4 ต.ค.68)

ปัจจุบัน ฐานะกองทุนน้ำมันฯ มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยด้านราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้สามารถลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของกลุ่มน้ำมันดีเซลลงได้

"กบน. เล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ซึ่งปัจจุบัน ฐานะกองทุนน้ำมันฯ มีสถานะดีขึ้น จึงมีความเหมาะสมที่จะปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลลง พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมัน ในการปรับลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินลงด้วยเพื่อช่วยเหลือประชาชน สะท้อนความมุ่งมั่นของ กบน. ในการดูแลค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา พร้อมกับการรักษาเสถียรภาพด้านราคาพลังงานในประเทศ" นายอรรถพล ระบุ

สำหรับ ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด ณ วันที่ 28 กันยายน 2568 กองทุนน้ำมันฯ ติดลบอยู่ที่ 17,838 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันบวกอยู่ที่ 24,429 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบอยู่ที่ 42,267 ล้านบาท ส่วนการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ประเภทน้ำมันดีเซลในครั้งนี้ จะทำให้รายรับน้ำมันดีเซลลดลง เหลือประมาณวันละ 30.96 ล้านบาท จากเดิมที่มีรายรับประมาณ วันละ 61.06 ล้านบาท ขณะที่รายรับจากกลุ่มน้ำมันเบนซินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ประมาณวันละ 93.80 ล้านบาทเท่าเดิม

นายอรรถพล กล่าวว่า นโยบายของกระทรวงพลังงานคือการดูแลสาขาต้นทุนพลังงานเพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อประชาชน โดยยืนยันว่าค่าไฟในรอบถัดไปจะไม่สูงไปกว่ารอบนี้แน่นอน

สำหรับความคืบหน้าแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับใหม่ ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่จะเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ภายในปีนี้ โดยแผนฉบับใหม่จะเน้นเรื่องพลังงานทดแทน รวมถึง CCS ที่จะมีการกักเก็บ Co2 แต่เนื่องจาก CCS เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จำเป็นจะต้องมีการปรับกฎเกณฑ์ กฎหมายให้สอดคล้อง ต่อไป

นอกจากนี้ ล่าสุดกระทรวงพลังงานได้ร่วมกับทางญี่ปุ่น เพื่อสำรวจแหล่งพื้นที่ในการดำเนินโครงการ CCS เพิ่มเติม พบว่าไทยมีพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงห่างออกจากฝั่งไปประมาณ 200 กิโลเมตร ซึ่งเป็นโตรงการของประเทศ มีความสามารถกักเก็บ Co2 จำนวนมาก ซึ่งนอกเหนือจากโครงการอาทิตย์ที่เป็นไพรอท กักเก็บได้ 1 ล้านตัน

ส่วนความคืบหน้าการสรรหาผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)ต่อไป ส่วนการตั้ง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ชุดใหม่ จะมีการตั้งคณะกรรมสรรหาใหม่ คาดแล้วเสร็จภายใน 4 เดือน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ