นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย เดือนพ.ย. 68 เท่ากับ 100.15 ลดลง 0.49%YoY โดยเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 จากตลาดคาด 0.6-0.7%
ทั้งนี้ มีสาเหตุสำคัญจากราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานลดลง ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิง ตามสถานการณ์พลังงานในตลาดโลกและมาตรการลดการะค่าครองชีพของภาครัฐ ขณะที่สินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากลดลงต่อเนื่องมา 3 เดือนจากการสูงขึ้นของราคาผักสด อาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮฮอล์ สำหรับเงินเฟ้อตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ย. 68 อยู่ที่ -0.12%
ทั้งนี้ คาดเงินเฟ้อทั้งปี 68 จะอยู่ที่ -0.15% ถึง -0.20% โดยเป็นการติดลบในรอบ 4 ปี (ตั้งแต่ปี 63 ที่ -0.85%) ปัจจัยหลักจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และมาตรการภาครัฐช่วยค่าครองชีพ ดังนั้น คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อเดือนธ.ค. 68 จะอยู่ที่ -0.48% ถึง -1.08% ในส่วนของสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อไม่มาก เพิ่มขึ้นเพียง 0.01-0.05%
สำหรับโครงการคนละครึ่งพลัส กระตุ้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนต.ค.-พ.ย. 68 ดังนั้น หากมีมาตรการต่าง ๆ ทั้งคนละครึ่งพลัส และมาตรการลดดอกเบี้ยครัวเรือนต่าง ๆ ในระยะยาวมากขึ้น ทั้งหมดจะเป็นส่วนช่วยครัวเรือนด้านอุปสงค์ และจะช่วยให้เงินเฟ้อขึ้นมา
ในส่วนของแนวโน้มเงินเฟ้อปี 69 (ณ เดือน ธ.ค. 68) คาดอยู่ที่ 0.0-1.0% บนพื้นฐานอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่ 1.2-2.2% น้ำมันดิบดูไบ (ทั้งปี) 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน (ทั้งปี) 32.0-33.0 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนเงินเฟ้อในไตรมาส 1/69 มองแนวโน้มเป็นบวก ถึงแม้ว่าราคาพลังงานยังติดลบอยู่ แต่ราคาสินค้าเกษตรกระเตื้องมากขึ้น จึงอาจเป็นส่วนหนึ่งที่อาจทำให้เงินเฟ้อไตรมาสแรกเป็นบวกได้