นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย.68 กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการ ว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2568 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้เรียบร้อยแล้ว
โดยกฎกระทรวงฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงเกณฑ์การซื้อหุ้นคืนของบริษัทมหาชนจำกัด ให้มีความยืดหยุ่น และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดทุน โดยมีสาระสำคัญ 2 ประเด็น คือ
1. ยกเลิกระยะเวลาพักคอย (Breaking Period) จากเดิมบริษัทมหาชนต้องรอ 6 เดือน ก่อนเริ่มโครงการซื้อหุ้นคืนใหม่ กฎกระทรวงฉบับนี้ ปรับปรุงให้สามารถเริ่มโครงการใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารทุนของบริษัท
2. ขยายระยะเวลาการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน จากเดิมบริษัทต้องจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนภายใน 3 ปี หากแต่หลักเกณฑ์ใหม่สามารถขยายกรอบเวลาได้อีก 2 ปี เพื่อให้บริษัทสามารถเลือกช่วงเวลาในการจำหน่ายที่เหมาะสมกับสภาพตลาดได้มากขึ้น
"การแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัทมหาชนจำกัด สามารถวางแผนการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินได้มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่อง และศักยภาพของตลาดทุน สร้างประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น ตลาดทุน และเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ พร้อมทั้งลดข้อจำกัดด้านกรอบเวลาการจำหน่ายหุ้นคืน ให้บริษัทสามารถขายหุ้นคืนในช่วงเวลาที่เหมาะสมได้มากขึ้น" อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าว
นอกจากนี้ การปรับปรุงกฎกระทรวงครั้ง นี้ยังสอดรับกับคำแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา และสนับสนุนนโยบายของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ที่มุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ทันสมัย และเอื้อต่อการแข่งขัน ผ่านการปรับปรุงกฎระเบียบ และกระบวนการอนุญาตให้มีความสะดวก โปร่งใส และเป็นมิตรต่อผู้ประกอบการ เพื่อยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการไทยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
นายพูนพงษ์ ย้ำว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังคงมุ่งมั่นลดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ และสนับสนุนการยกระดับตลาดทุนไทยให้ทันสมัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ และคาดหวังว่าการปรับปรุงกฎกระทรวงครั้งนี้ จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการทุนของบริษัทมหาชนจำกัด และสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีความมั่นคง โปร่งใส และแข่งขันได้ในระยะยาวต่อไป