ดีลภาษีสหรัฐสิ้นปี 68 ส่อเลื่อน รมว.พาณิชย์ รับไม่แน่ใจปิดดีลตามเป้าหลังปะทะกัมพูชา

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 8, 2025 18:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุปะทะรอบใหม่ระหว่างไทย-กัมพูชาจะมีผลต่อการปิดดีลเจรจากับสหรัฐฯ ตามเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้หรือไม่นั้นยังไม่แน่ใจว่าการเจรจาจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่สิ่งที่ยืนยันในตอนนี้ คือ ไทยพร้อมจะเดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐฯอย่างแน่นอน เพราะกรณีที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดของกัมพูชาจนได้รับบาดเจ็บเมื่อเร็ว ๆ นี้ เราไม่ได้เป็นฝ่ายผิด การดำเนินการทั้งหมดสมเหตุสมผล ก่อนหน้า รมว.ต่างประเทศของไทยก็ได้ชี้แจงแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย

"ก่อนเกิดเหตุการณ์ปะทะไทย-กัมพูชาในปัจจุบัน หากสอบถามถึงการเดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐฯ เรามีความพร้อมและมีความมั่นใจอย่างมากที่จะเดินหน้าให้ได้ตามเป้าหมายที่มองไว้ แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้เราไม่แน่ใจบ้าง แต่สิ่งที่ไทยยืนยันได้ว่า เราตอบโต้ตามเหตุและผลของการปะทะ ทำทุกอย่างตามขั้นตอน และเชื่อว่าสหรัฐฯ จะเข้าใจว่าไทยไม่ได้ไปรุกราน และสหรัฐฯก็ไม่น่าจะติดปัญหาเรื่องนี้" นางศุภจี กล่าว

ทั้งนี้ แม้เป้าหมายการปิดการเจรจาที่เราตั้งไว้ให้จบภายในสิ้นปี 68 มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลง แต่เชื่อว่าอัตราภาษี 19% ที่สหรัฐฯ จะเก็บจากไทยนั้นจนถึงขณะนี้ยังคงเดินหน้าต่อ และคงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตรา แม้บางประเทศจะปิดดีลการเจรจาไปแล้ว เช่น มาเลเซีย และกัมพูชา แต่ก็เป็นตัวอย่างให้ไทยได้ศึกษาว่า การเจรจาสหรัฐฯต่อไปนั้น ไทยจะต้องเดินหน้าเจรจาอย่างไร เพื่อให้ไทยได้จบดีลที่ดีกว่า อย่างน้อยต่ำกว่าหรือดีกว่า และที่สำคัญ การที่ยังไม่ปิดดีลเจรจา หรือลงนามความตกลงกับสหรัฐฯ ทำให้สินค้าไทยบางรายได้รับการยกเว้นเก็บภาษีตอบโต้อยู่ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องยอมรับว่าการเดินหน้าเจรจา ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะเดินหน้าได้หรือไม่ แต่เชื่อว่าแม้จะชะลอการเจรจาออกไป ไทยก็ยังไม่ได้รับผลกระทบ

สำหรับกรณีที่ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ได้ส่งหนังสือถึงไทย เพื่อขอระงับการเจรจาจนกว่าไทยจะกลับเข้าสู่กระบวนการสันติภาพกับกัมพูชาภายใต้กรอบ Peace Declaration นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่ผู้นำของไทยและสหรัฐฯจะพูดคุยกัน และรวมถึงการพูดคุยกับผู้นำมาเลเซีย แต่หลังจากที่ผู้นำของไทยและสหรัฐฯ ได้พูดคุยกันแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯก็เข้าใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับไทยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับทหารไทยเหยียบกับระเบิดนั้น ไม่ใช่ความผิดของไทย แต่กัมพูชาไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดใน Peace Declaration

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ไทยได้รับหนังสือขอระงับการเจรจาจาก USTR กระทรวงพาณิชย์ก็ได้ทำหนังสือตอบกลับว่าผู้นำของไยและสหรัฐฯ ได้หารือกันแล้ว และไทยยังมีความตั้งใจที่จะเดินหน้าเจรจากับสหรัฐฯต่อไป แต่จนถึงขณะนี้ไทยก็ยังไม่ได้รับหนังสือตอบกลับจาก USTR อย่างเป็นทางการ

"เราไม่ได้หยุดที่จะหารือและเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ และพร้อมส่งสัญญาณจากภาคเอกชน ไม่ว่าจากเอกชนไทย หรือเอกชนสหรัฐ รวมไปถึงช่องทางทางการทูต ว่าเรายังต้องการเดินหน้าเจรจาอยู่ และผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์นั้น คือ เอกชนสหรัฐฯที่เข้ามาลงทุนในไทย แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ด้านการเจรจาต่อไป รวมไปถึงการพิจารณาของศาลสูงสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาว่า กรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯออกคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับคู่ค้านั้น เป็นการดำเนินการที่เกินกว่าขอบเขตของกฎหมายสหรัฐฯหรือไมด้วย"นางศุภจี กล่าว

รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-กัมพูชาว่า เบื้องต้นประเมินว่าเหตุการณ์ปะทะครั้งล่าสุดน่าจะไม่มีผลกระทบที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญหลังจากนี้ คือ การดูแลผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจบริเวณแนวชายแดน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีแผนช่วยเหลืออยู่แล้ว ขณะที่การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ลงทุนในกัมพูชา กระทรวงการคลังเตรียมที่จะออกมาตรการช่วยเหลือเช่นกัน เช่น สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง, การโอนย้ายเครื่องจักร เครื่องมือ โดยไม่เสียภาษี

ทั้งนี้ ตัวเลขการค้าชายแดนไทยกัมพูชา 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) ปี 68 ว่า มีมูลค่า 95,554 ล้านบาท ติดลบ 36.68% โดยเป็นการส่งออก 72,844 ล้านบาท ติดลบ 38.43% และนำเข้า 22,710 ล้านบาท ติดลบ 30.32% ขณะที่เดือนต.ค.68 เมีมูลค่าอยู่ที่ 9 ล้านบาท ติดลบ 99.94% แยกเป็น ส่งออก 9 ล้านบาท ติดลบ 99.93% และนำเข้า 320,000 บาท ติดลบ 99.99%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ