ธปท. เผยศก.ไทย พ.ย.โตต่อเนื่อง จากอานิสงค์ท่องเที่ยว-ส่งออก จับตาผลกระทบบาทแข็ง-ภาษีสหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 30, 2025 14:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธปท. เผยศก.ไทย พ.ย.โตต่อเนื่อง จากอานิสงค์ท่องเที่ยว-ส่งออก จับตาผลกระทบบาทแข็ง-ภาษีสหรัฐ

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยเศรษฐกิจไทยเดือนพ.ย.68 ขยายตัวจากเดือนก่อนตามอุปสงค์ต่างประเทศ โดยการส่งออกสินค้าและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อกิจกรรมในภาคบริการที่เกี่ยวข้อง ส่วนอุปสงค์ในประเทศเพิ่มขึ้น จากการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ แต่การบริโภคภาคเอกชนปรับลดลง

สำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงในหลายหมวด โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยชั่วคราว ประกอบกับอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศชะลอลงในบางสินค้า ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากเดือนก่อน และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวกใกล้เคียงกับเดือนก่อน ขณะที่ตลาดแรงงานทรงตัว ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลจากทั้งดุลบริการ รายได้ และเงินโอน และดุลการค้า

ธปท. เผยศก.ไทย พ.ย.โตต่อเนื่อง จากอานิสงค์ท่องเที่ยว-ส่งออก จับตาผลกระทบบาทแข็ง-ภาษีสหรัฐ
  • เศรษฐกิจด้านอุปทาน

- การบริโภคภาคเอกชน

เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน จากการใช้จ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทน ตามยอดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและปริมาณการใช้ไฟฟ้า แม้การใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่หมวดสินค้าคงทนลดลง จากยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ และยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล

อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายในหมวดบริการเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน โดยเฉพาะโรงแรม และภัตตาคาร สอดคล้องกับรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและการใช้จ่ายของคนไทยที่ส่วนหนึ่งได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยมาตรการดังกล่าว มีส่วนช่วยให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน

ธปท. เผยศก.ไทย พ.ย.โตต่อเนื่อง จากอานิสงค์ท่องเที่ยว-ส่งออก จับตาผลกระทบบาทแข็ง-ภาษีสหรัฐ

- การลงทุนภาคเอกชน

เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ ตามยอดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องจักร เครื่องมือ อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหมวดยานพาหนะลดลง ตามยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งทุกประเภท และมูลค่าการนำเข้าเครื่องบิน ขณะที่หมวดก่อสร้างลดลงเล็กน้อย โดยหมวดที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยลดลงตามพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างนอกเขตอุตสาหกรรม และอาคารพาณิชย์ และหมวดที่อยู่อาศัยลดลงตามพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างคอนโดมิเนียม

- จำนวนและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จัดปัจจัยฤดูกาลลดลงจากเดือนก่อน จากนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) ที่เร่งไปในช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะจีน และเกาหลีใต้ รวมถึงมาเลเซีย ที่ลดการเดินทางในช่วงที่ภาคใต้เผชิญสถานการณ์น้ำท่วม อย่างไรก็ดี รายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long-haul) ที่มีค่าใช้จ่ายต่อทริปสูงปรับเพิ่มขึ้น และ

ช่วยชดเชยการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ที่ลดลงได้

- การส่งออกสินค้า

มูลค่าการส่งออกสินค้า ไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนในหลายหมวดสินค้า อาทิ 1) เครื่องประดับไปอินเดีย 2) อิเล็กทรอนิกส์ จากการส่งออกอุปกรณ์โทรคมนาคมไปสหรัฐฯ รวมถึงคอมพิวเตอร์ไปจีน และ 3) เหล็กและโลหะ ตามการส่งออกอะลูมิเนียมและทองแดงไปจีน อย่างไรก็ตาม การส่งออกหมวดยานยนต์ ปรับลดลงตามการส่งออกรถกระบะ และรถยนต์นั่งไปตะวันออกกลาง และอาเซียนที่อุปสงค์ชะลอลง

- การนำเข้า

มูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จาก 1) หมวดวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางที่ไม่รวมเชื้อเพลิง ตามการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าจากไต้หวัน 2) หมวดสินค้าอุปโภคและบริโภค ตามการนำเข้าโทรศัพท์มือถือ และรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน และ 3) สินค้าทุนไม่รวมเครื่องบิน ตามการนำเข้าเครื่องจักร และคอมพิวเตอร์จากจีน อย่างไรก็ตาม หมวดเชื้อเพลิงลดลงตามการนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง

- การใช้จ่ายภาครัฐ

การใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากรายจ่ายลงทุนเป็นสำคัญ โดยรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางขยายตัวจากการใช้จ่ายในโครงการทางหลวง และด้านชลประทาน ขณะที่รายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจขยายตัวจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง อย่างไรก็ดี รายจ่ายประจำของรัฐบาลกลางใกล้เคียงกับปีก่อน โดยการเบิกจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญ งบบุคลากร และค่ารักษาพยาบาลข้าราชการขยายตัว ขณะที่การเบิกจ่ายค่าจัดการเรียนการสอนหดตัว

  • เศรษฐกิจด้านอุปสงค์

- การผลิตภาคอุตสาหกรรม

ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลลดลงจากเดือนก่อน โดยลดลงในทุกกลุ่มการผลิตดังนี้ 1) กลุ่มผลิตเพื่อส่งออกในสัดส่วนน้อยกว่า 30% ลดลงจากการผลิตปิโตรเลียมที่หยุดผลิตชั่วคราว ตามการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น 2) กลุ่มผลิตเพื่อส่งออกในสัดส่วน 30-60% ลดลงจากการผลิตรถยนต์นั่ง และรถกระบะ ตามอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอลง รวมถึงกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ตามการผลิตกลุ่มอาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็ง และทูน่ากระป๋อง เนื่องจากโรงงานหยุดผลิตชั่วคราวในช่วงน้ำท่วมภาคใต้ และเครื่องดื่ม จากอุปสงค์ในประเทศชะลอตัว และ 3) กลุ่มผลิตเพื่อส่งออกในสัดส่วนมากกว่า 60% ลดลงจากหมวดฮาร์ดดิกส์ไดร์ฟ และแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนที่มีการเร่งผลิตในช่วงก่อนหน้า

- ภาคบริการ

เครื่องชี้ภาคบริการที่ไม่รวมการซื้อขายทองคำ และขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตามกิจกรรมในภาคการท่องเที่ยวที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร สอดคล้องกับรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และการใช้จ่ายในร้านอาหารของคนไทยที่มากขึ้นจากผลบวกของมาตรการภาครัฐ รวมทั้งการขนส่งผู้โดยสาร จากการขนส่งที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวตามการขยายเส้นทางบินของ

สายการบินในประเทศ ด้านภาคการค้าปรับเพิ่มขึ้นตามการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค สอดคล้องกับการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น

- รายได้เกษตรกร

รายได้เกษตรกรหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนตามราคาสินค้าเกษตรเป็นสำคัญ โดยราคาข้าวขาว และยางพารา ลดลง

จากปริมาณผลผลิตของทั้งไทย และตลาดโลก ที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับราคาผลไม้ โดยเฉพาะลำไย และทุเรียน ที่ยังได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการตรวจสอบสารตกค้างของจีน และผลผลิตในปีนี้ที่ออกมามาก สำหรับผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวเล็กน้อย จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากการขยายพื้นที่เพาะปลูก และการปลูกทดแทนพืชไร่อื่นที่ราคาปรับลดลงมาก
  • ภาวะการเงินและเสถียรภาพ

- ภาวะการเงิน การระดมทุนของภาคธุรกิจ โดยรวมปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนจากการระดมทุนผ่านสินเชื่อสุทธิและตลาดทุน โดยการระดมทุนผ่านสินเชื่อสุทธิเพิ่มขึ้นตามธุรกิจการผลิตยาง และพลาสติก และธุรกิจที่พักแรม และร้านอาหารเป็นสำคัญ ด้านการระดมทุนผ่านตลาดทุนเพิ่มขึ้นจากธุรกิจผลิตสิ่งทอ อาหาร และอาหารแปรรูป อย่างไรก็ตาม การระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ปรับลดลงในธุรกิจผลิตวัสดุก่อสร้าง และภาคการค้า สำหรับต้นทุนการระดมทุนผ่านตราสารหนี้ ตั้งแต่ 1 พ.ย. - 25 ธ.ค.68 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย ทั้งระยะสั้น และระยะยาวเฉลี่ยลดลง จากการคาดการณ์และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. 68 (ข้อมูลถึง 25 ธ.ค. 68) เงินบาทปรับแข็งค่าตามทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มผ่อนคลายต่อเนื่อง จากตัวเลขเศรษฐกิจและการจ้างงานที่ออกมาช่วงปลายเดือน พ.ย. และต้นเดือน ธ.ค. ซึ่งยังอ่อนแอ รวมถึงปัจจัยเฉพาะของไทย ได้แก่ กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดพันธบัตรระยะยาว รายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว และราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ด้านดัชนีค่าเงินบาท (NEER) เฉลี่ยแข็งค่าในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. มากกว่าสกุลคู่ค้าคู่แข่ง จากปัจจัยเฉพาะของไทย

- อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากเดือนก่อน ตามหมวดอาหารสด จากราคาผักที่สูงขึ้นจากผลของน้ำท่วม แม้อัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานติดลบมากขึ้นตามการลดลงของราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวกใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยราคาค่าโดยสารสาธารณะ อาหารโทรสั่งและของใช้ส่วนตัวปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาในหมวดเครื่องประกอบอาหารลดลง

ด้านภาวะตลาดแรงงาน การจ้างงานในตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัว โดยยังต้องติดตามจำนวนผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่ลดลงต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันของสินค้านำเข้า สำหรับสัดส่วนผู้ขอรับสิทธิว่างงานต่อผู้ประกันตนลดลงทั้งในภาพรวมและรายใหม่ ทั้งนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล จากทั้งดุลบริการ รายได้ และเงินโอน และดุลการค้า

*จับตาผลกระทบบาทแข็ง-ภาษีสหรัฐฯ

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป ยังมีแรงส่งมาจากกิจกรรมในภาคบริการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และการบริโภคภาคเอกชนที่ยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการภาครัฐ

ทั้งนี้ ในระยะต่อไปยังมีปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1) การฟื้นตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรม 2) ผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่า 3) การฟื้นตัวของธุรกิจหลังเหตุการณ์น้ำท่วม 4) ผลกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา และ 5) ผลกระทบของมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากประเมินเศรษฐกิจไทยในภาพรวมของปีนี้ เชื่อว่าจะยังเป็นไปตามทิศทางที่ ธปท.ได้ประมาณไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี มองว่าบางส่วนปรับดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ เช่น การท่องเที่ยว ทั้งจากที่คนไทยเที่ยวในประเทศ และต่างชาติเข้ามาเที่ยวในไทย ที่ส่งผลให้ภาคการค้าปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย

"หากดูจากเครื่องชี้ในเดือนพ.ย. ก็น่าเป็นไปตามคาดในภาพรวม...ต้องรอดูข้อมูลเดือน ธ.ค.อีกที แต่ภาพรวม น่าจะเป็นตามที่คาดไว้ รอดู GDP เดือนก.พ.69 อาจมี upside บ้าง downside บ้าง แต่ส่วนใหญ่ ผลกระทบต่าง ๆ เราได้ price in ไปแล้วในประมาณการล่าสุด" น.ส.ชญาวดี ระบุ

อย่างไรก็ดี ในส่วนของการผลิตอุตสาหกรรม อาจยังออกมาต่ำกว่าที่คาด โดยล่าสุดดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) ที่อยู่ในระดับต่ำนั้น ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยชั่วคราว และอีกส่วนมาจากอุปสงค์ทยอยปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา โดยมีต้นตอจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ที่ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยค่อย ๆ ลดลง ส่งผลให้การผลิตลดลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

"นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญมาก ที่เราเน้นในเรื่องการปรับโครงสร้างระยะต่อไป บทบาทของแบงก์ชาติ คือ การเพิ่มสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจเพื่อนำไปปรับโครงสร้างได้ ทำให้ SMEs เบาตัวขึ้น ลดภาระได้มากขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของหลาย ๆ โครงการที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา" น.ส.ชญาวดี ระบุ

น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า จากภาวะเงินบาทแข็งค่าในช่วงที่ผ่านมานั้น ทั้งในส่วนของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และ ธปท. ต่างเห็นพ้องกันว่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่าปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจ และส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยเฉพาะของไทยเอง ซึ่ง ธปท.ได้ติดตามดูผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้วย

"เราจึงได้มีมาตรการออกมาดูแลแก้ไข และตอนนี้ จะเห็นว่าค่าเงินพอบรรเทาลงได้บ้าง หวังว่าปิดปี ตัวเลขจะสวยขึ้นกว่าในช่วงที่ผ่านมา สำหรับคนทำงบประมาณ" โฆษก ธปท. ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ