นายสมชัย สัจจพงษ์ ผอ.สศค. เปิดเผยว่า ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 54 ปรับลดลงจาก 2.6% เหลือ 1.7-2.0% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม แต่ปี 55 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้มากถึง 5% ซึ่งถือเป็นภาวะปกติเมื่อปีใดมีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ ปีต่อมาเศรษฐกิจจะเติบโตได้เร็ว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเม็ดเงินที่รัฐบาลจะอัดฉีดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับเศรษฐกิจในเดือนต.ค.54 ถือว่าเป็นภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ปกติ เส้นชี้ภาวะเศรษฐกิจในทุกด้านมีสัญญาณหดตัวอย่างชัดเจน ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ถือว่าเป็นเดือนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด เนื่องจากผลของภาวะอุทกภัยที่กระทบต่อการผลิตโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันได้ส่งผลให้การใช้จ่ายภายในประเทศและการส่งออกชะลอตัวลง โดยเฉพาะการใช้จ่ายภายในประเทศ สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ มีการขยายตัวร้อยละ 11.3 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 13.3 ขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งหดตัวลงร้อยละ -38.8 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 29.6 ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนในเขตอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยต้องหยุดการผลิต
สำหรับการลงทุนภาคเอกชนส่งสัญญาณหดตัวลงเช่นกัน สะท้อนจากยอดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่หดตัวร้อยละ -41.8 จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 25.7 ขณะที่การส่งออกในเดือนตุลาคม 2554 ชะลอตัวลงมาก โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่า 17.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.3 จากเดือนเดียวกันของปีก่อนซึ่งสินค้าส่งออกที่ยังขยายตัวได้มาจากสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร
แต่คาดว่าในเดือน พ.ย.และธ.ค.คงไม่รุนแรงเท่าเดือน ต.ค.54 เนื่องจากมีสัญญาณที่ดี หลังเห็นบริษัทบางแห่งเริ่มกระบวนการผลิตบ้างแล้ว
ทั้งนี้ สศค. จะมีการปรับประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจอีกครั้งในเดือนธันวาคม 2554 ต่อไป