(เพิ่มเติม) สศค.ประเมิน GDP ไทยปี 54 โต 1.7-2% หลังถูกผลกระทบน้ำท่วม,ปี 55 โต 5%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 28, 2011 14:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผอ.สศค. เปิดเผยว่า ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 54 ปรับลดลงจาก 2.6% เหลือ 1.7-2.0% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม แต่ปี 55 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้มากถึง 5% ซึ่งถือเป็นภาวะปกติเมื่อปีใดมีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ ปีต่อมาเศรษฐกิจจะเติบโตได้เร็ว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเม็ดเงินที่รัฐบาลจะอัดฉีดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

สำหรับเศรษฐกิจในเดือนต.ค.54 ถือว่าเป็นภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ปกติ เส้นชี้ภาวะเศรษฐกิจในทุกด้านมีสัญญาณหดตัวอย่างชัดเจน ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ถือว่าเป็นเดือนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด เนื่องจากผลของภาวะอุทกภัยที่กระทบต่อการผลิตโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันได้ส่งผลให้การใช้จ่ายภายในประเทศและการส่งออกชะลอตัวลง โดยเฉพาะการใช้จ่ายภายในประเทศ สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ มีการขยายตัวร้อยละ 11.3 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 13.3 ขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งหดตัวลงร้อยละ -38.8 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 29.6 ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนในเขตอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยต้องหยุดการผลิต

สำหรับการลงทุนภาคเอกชนส่งสัญญาณหดตัวลงเช่นกัน สะท้อนจากยอดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่หดตัวร้อยละ -41.8 จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 25.7 ขณะที่การส่งออกในเดือนตุลาคม 2554 ชะลอตัวลงมาก โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่า 17.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.3 จากเดือนเดียวกันของปีก่อนซึ่งสินค้าส่งออกที่ยังขยายตัวได้มาจากสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร

แต่คาดว่าในเดือน พ.ย.และธ.ค.คงไม่รุนแรงเท่าเดือน ต.ค.54 เนื่องจากมีสัญญาณที่ดี หลังเห็นบริษัทบางแห่งเริ่มกระบวนการผลิตบ้างแล้ว

ทั้งนี้ สศค. จะมีการปรับประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจอีกครั้งในเดือนธันวาคม 2554 ต่อไป

นายสมชัย กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจในปี 55 จะขยายตัวได้ขึ้นอยู่กับการอัดฉีดเม็ดเงินภาครัฐ ซึ่งมาจากการปล่อยสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูน้ำท่วมกว่า 3.2 แสนล้านบาท รวมถึงโครงการพักชำระหนี้ นอกจากนี้รัฐบาลยังมีเม็ดเงินจากการขาดดุลงบประมาณประจำปี 55 จำนวน 4 แสนล้านบาท อีกทั้งยังเตรียมออก พ.ร.ก.เพื่อกู้เงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระยะสั้น-ยาว จำนวน 2 แสนล้านบาท และยังมีกระสุนการก่อหนี้ตาม พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ ที่ให้ก่อหนี้ต่างประเทศได้ 20% ของงบประมาณรายจ่าย เป็นเงิน 1 แสนล้านบาท และ การค้ำประกันหนี้รัฐวิสาหกิจ 10% ของงบประมาณรายจ่าย หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท

และในปี 55 จะเป็นปีของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากภาคการคลัง ซึ่ง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลังให้ถือเป็นปีแห่งการลงทุน โดยมอบหมายให้ สศค.เสนอแนวทางการส่งเสริมการลงทุน รวมถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เนื่องจากพบว่าที่ผ่านมาประเทศไทยยังมีการลงทุนน้อย โดยยังมีการออมเงินมากกว่าการลงทุน โดยหวังให้ภาคเอกชนมีการลงทุนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 7-8% เพิ่มเป็น 15%

"รมว.คลังให้สศค.มาช่วยดูปัญหาและอุปสรรคที่ทำไมคนไทยไม่ไปลงทุนต่างประเทศ และให้มีการระดมความคิดเห็นและเสนอเรื่องกลับมาโดยด่วน" นายสมชัย กล่าว

ด้านนายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สศค. กล่าวว่า จากน้ำท่วมที่เกิดขึ้นทำให้ในเดือน ต.ค.54 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 4.2% จากเดือน ก.ย.อยู่ที่ 4.0% เนื่องจากน้ำท่วมทำให้ราคาสินค้าสำเร็จรูป อาหารสดปรับสูงขึ้น และคาดว่าในเดือน พ.ย.54 เงินเฟ้อน่าจะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าอยู่ระดับเดียวกับเดือน ต.ค.หรือสูงกว่าเล็กน้อย แต่คาดว่า ธ.ค.54 เงินเฟ้อน่าจะไม่เร่งตัวขึ้นมาก และทั้งปี คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ในกรอบที่ 3.9%

นอกจากนี้จากน้ำท่วมทำให้เกิดปัญหาคนว่างงาน 3-4 แสนคน แต่คาดว่าจะเป็นสถานการณ์ชั่วคราว หากภาคเอกชนกลับมาผลิตได้ตามปกิต น่าจะทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น และคาดว่าจำนวนคนว่างงานจะลดลงเหลือ 1 แสนคน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ