นายจอห์น เคลช์ คณบดีและรองประธานวิทยาลัยธุรกิจนานาชาติจีน-ยุโรป (CEIBS) กล่าววานนี้ว่า จีนควรระมัดระวังในการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อเลี่ยงการกระตุ้นเงินเฟ้อ ขณะที่วิกฤตสินเชื่อสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) สามารถคลี่คลายได้โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนนโยบาย
นายเคลช์กล่าวว่า จีนไม่ได้ขาดแคลนเม็ดเงิน เนื่องจากภาคครัวเรือนมีเงินออมหลายล้านล้านดอลลาร์ทั่วประเทศ
“ภายใต้ภาวการณ์ดังกล่าว สิ่งจำเป็นก็คือ SME ต้องเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น" นายเคลช์กล่าวกับสำนักข่าวซินหัว
จีนได้ดำเนินนโยบายการเงินที่ระมัดระวังเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยธนาคารกลางจีนได้ปรับเพิ่มสัดส่วนเพดานกันสำรองสำหรับธนาคารพาณิชย์ (RRR) 6 ครั้งและปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้เกิดการขาดแคลนเงินทุนสำหรับ SME
“ผมคิดว่าความท้าทายเชิงโครงสร้างสามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องใช้วิธีการผ่อนคลายนโยบายการเงิน" นายเคลช์กล่าว
ขณะที่การขยายตัวของจีนแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 8.1% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ตลาดจึงคาดกันว่าจะมีมาตรการที่แข็งแกร่งมากขึ้นในการผ่อนคลายทางการเงิน หลังการปรับลดสัดส่วนเพดานกันสำรอง 2 ครั้งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา
นายเคลช์กล่าวว่ารัฐบาลควรจัดสรรเงินแก่ SME ผ่านทางสถาบันการเงินที่หลากหลายในวงกว้าง ขณะที่ธนาคารขนาดใหญ่ตระหนักถึงความเสี่ยงมากขึ้น และลังเลที่จะเผชิญความเสี่ยงในการช่วยเหลือ SME