นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐในปัจจุบันกำลังมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง จึงไม่จำเป็นที่เฟดจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายดัดลีย์มีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อยว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังมีการขยายตัว
สำหรับมาตรการ Operation Twist หรือการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว พร้อมกับขายพันธบัตรระยะสั้นในวงเงินที่เท่ากัน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในสิ้นเดือนมิ.ย.นั้น นายดัดลีย์กล่าวว่าเขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าควรจะมีการขยายระยะเวลาของมาตรการดังกล่าวออกไปหรือไม่ ก่อนที่จะเฟดจะมีการประชุมกำหนดนโยบายครั้งหน้าในวันที่ 19-20 มิ.ย.แต่ระบุว่ามาตรการดังกล่าวส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ โดยลดความเสี่ยงช่วงขาลงและส่งผลให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับทรงตัว
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ต่างก็ส่งสัญญาณไปในเชิงบวก โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 พ.ค. ลดลง 2,000 ราย มาอยู่ที่ 370,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัว แต่เป็นไปอย่างช้าๆ
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 3.3% แตะ 343,000 ยูนิตในเดือนเมษายน เทียบกับ 332,000 ยูนิตในเดือนมีนาคม และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 3.4% สู่ระดับ 4.62 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี นับเป็นการส่งสัญญาณว่าตลาดที่อยู่อาศัยที่อ่อนแรงของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
อย่างไรก็ตาม นายดัดลีย์กล่าวว่า หากเศรษฐกิจปรับตัวย่ำแย่ลง เฟดก็ไม่ปฏิเสธการใช้มาตรการหนุนเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบใหม่