กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 มิ.ย. เพิ่มขึ้น 6,000 ราย มาอยู่ที่ 386,000 ราย นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐในช่วงก่อนหน้านี้ได้อ่อนแรงลงแล้ว
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วลดลงจากระดับ 380,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 377,000 รายในรายงานก่อนหน้านี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ 370,000 ราย
นอกจากนี้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 3,500 ราย มาอยู่ที่ 382,000 ราย โดยข้อมูลนี้ถูกมองว่าสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่า เพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์
ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 33,000 ราย ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 มิ.ย.สู่ระดับ 3.28 ล้านราย
ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ตลาดแรงงานสหรัฐได้ส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนต.ค. แต่ความเคลื่อนไหวที่เป็นบวกดังกล่าวเริ่มส่อแววหยุดชะงักในระยะหลังมานี้ เมื่อจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์กลับมาดีดตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงเดือนเม.ย.จนถึงพ.ค.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันการจ้างงานใหม่ยังส่งสัญญาณชะลอตัวด้วย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดเพียง 69,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 8.2% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 8.1%
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะลดลงเพียงเล็กน้อยมาอยู่ที่ราว 7.8-8.0% ภายในปลายปีนี้