แฟนนี เม ชี้ตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐยังคงสดใส แม้มีแนวโน้มชะลอตัวลง

ข่าวต่างประเทศ Tuesday July 24, 2012 11:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมการจำนองแห่งชาติของรัฐบาลกลางสหรัฐ (แฟนนี เม) ชี้ตลาที่อยู่อาศัยในสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่สดใส ถึงแม้คาดว่าอาจจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2555

รายงานของแฟนนี เม ระบุว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคได้อ่อนแรงลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงสู่ระดับ 87 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ รายงานการจ้างงานเดือนมิถุนายนยังบ่งชี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานได้ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยรายเดือนในไตรมาสแรก และความวิตกกังวลที่ยืดเยื้อเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินในยุโรปอาจฉุดรั้งไม่ให้ตัวเลขการจ้างงานในภาคเอกชนปรับตัวขึ้นมากนักก่อนสิ้นปีนี้

ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ของแฟนนี เม ได้ทบทวนปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐสำหรับปีนี้ลงจาก 2.2% สู่ระดับ 2%

ดัก ดันแคน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของแฟนนี เม กล่าวว่า "แม้ว่ามีสัญญาณการปรับตัวย่ำแย่ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดที่อยู่อาศัยจะยังคงมีความสดใส ซึ่งนับเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจ"

รายงานคาดว่า หากเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ยอดขายบ้านซึ่งรวมไปถึงบ้านใหม่และบ้านมือสอง อาจเพิ่มขึ้น 8.8% แตะที่ 4.97 ล้านยูนิต ในขณะที่ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะเพิ่มขึ้น 18.6% แตะ 510,000 ยูนิต ถึงแม้ว่าจะยังต่ำกว่าระดับเป็นการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งก็ตาม

นอกจากนี้ คาดว่าการลงทุนในที่อยู่อาศัยคาดว่าอาจปรับตัวขึ้นในปีนี้แต่จากฐานที่อยู่ในระดับต่ำมาก และคาดว่าจะช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2548

ผลการสำรวจตลาดบ้านล่าสุดของแฟนนี เม พบว่า เจ้าของบ้านมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการคาดการณ์ราคาบ้านในช่วง 1 ปีข้างหน้า และสัดส่วนของผู้บริโภคที่ระบุว่าจะซื้อบ้านหากย้ายที่อยู่นั้น เพิ่มขึ้น 6 % แตะระดับสูงสุดในการสำรวจซึ่งจัดทำขึ้นเป็นปีที่สอง สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ