นายชาติบ บาสรี ประธานคณะกรรมการประสานงานการลงทุน (BKPM) ของอินโดนีเซีย เปิดเผยวันนี้ว่า อินโดนีเซียมีการลงทุนใหม่รวมทั้งสิ้น 76.9 ล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 8.1 พันล้านดอลลาร์) ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งสูงขึ้น 24% จากระดับ 62 ล้านล้านรูเปียห์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นายชาติบกล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวประกอบด้วยยอดการลงทุนทั้งจากภายในประเทศและจากต่างประเทศซึ่งอยู่ที่ระดับ 20.8 ล้านล้านรูเปียห์ และ 56.1 ล้านล้านรูเปียห์ ตามลำดับ
นายชาติบยังกล่าวเสริมว่า ตัวเลขการลงทุนในไตรมาส 2 ส่งผลให้ยอดการลงทุนโดยรวมในช่วงครึ่งปีแรกแตะระดับ 148.1 ล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 1.56 หมื่นล้านดอลลาร์)
"ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้การขยายตัวด้านการลงทุนในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 28.1% เมื่อเทียบกับระดับ 115.6 ล้านล้านรูเปียห์ ในช่วงเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมา" นายชาติบกล่าวทั้งนี้ นายชาติบเชื่อมั่นว่า การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบระมัดระวัง ประกอบการประสานงานที่ราบรื่นขึ้นระหว่างรัฐบาลของประเทศต่างๆในภูมิภาคจะช่วยให้การลงทุนขยายตัวยิ่งขึ้นในอนาคต
ภาคอุตสาหกรรมโลหะมีการลงทุนในประเทศสูงที่สุดในช่วงไตรมาส 2 ตามมาด้วยอุตสาหกรรมเครื่องจักรและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ อุตสาหกรรมการผลิตอาหาร อุตสาหกรรมแร่และอโลหะ และอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร
ทางด้านการลงทุนจากต่างประเทศนั้น เห็นได้ชัดว่าภาคการทำเหมืองแร่มีการลงทุนมากที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว โดยจังหวัดบันเตนถือเป็นจังหวัดที่มีชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนสูงที่สุด รองลงมาเป็นจังหวัดริเอา ชวาตะวันออก จาการ์ตา กาลิมันตันตะวันออก นายชาติบกล่าวเสริม
สิงคโปร์ยังคงรั้งตำแหน่งประเทศที่เข้ามาลงทุนในอินโดนีเซียมากที่สุดในแง่ของจำนวนเงินลงทุนในช่วงไตรมาส 2 ตามมาด้วยสหรัฐ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
นายชาติบเปิดเผยว่า การลงทุนในช่วงไตรมาส 2 นั้น สามารถสร้างงานได้จำนวน 351,513 ตำแหน่ง หรือเพิ่มขึ้น 56% จากระดับ 225,804 ตำแหน่ง ในปีที่ผ่านมา