สำนักงานบริการทางการเงินของญี่ปุ่น (เอฟเอสเอ) ออกคำสั่งให้บริษัทโนมูระ ซีเคียวริตี้ส์ ปรับปรุงการควบคุมดูแลกิจการภายใน หลังบริษัทโนมูระ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ค้าหุ้นรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์อื้อฉาวเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลภายในบริษัทก่อนการซื้อขาย
สำนักงานเอฟเอสเอได้ออกคำสั่งดังกล่าว หลังโนมูระออกมาแถลงคำขอโทษต่อการรั่วไหลของข้อมูลซึ่งเป็นความลับ เกี่ยวกับการเสนอหุ้นตัวใหม่โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ซึ่งสร้างผลประโยชน์ต่อผู้ซื้อ โดยรัฐบาลถือว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดการเงินของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ การออกคำสั่งให้โนมูระปรับปรุงธุรกิจเป็นการออกคำสั่งครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 โดยเอฟเอสเอระงับคำตัดสินให้บริษัทระงับการดำเนินกิจการ หลังผู้บริหารอาวุโสในบริษัทโนมูระ โฮลดิ้งส์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ พากันลาออกหลายตำแหน่ง เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุอื้อฉาวที่เกิดขึ้น
นายทาดาฮิโระ มัตสุชิตะ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า “เมื่อเราพิจารณาจากความเป็นจริงว่า การเปิดเผยข้อมูลภายในก่อนการซื้อขายเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เราเชื่อว่าโนมูระต้องเผชิญกับความรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวง"
อย่างไรก็ตาม มัตสุชิตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า เอฟเอสเอเคารพต่อการปรับโครงสร้างผู้บริหาร และกล่าวว่า “เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโนมูระจะปฏิรูปกฎภายในอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างฐานโครงสร้างบริษัทให้แข็งแกร่ง"
ทั้งนี้ การออกคำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้น หลังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ให้มีการลงโทษโนมูระเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
โนมูระ โฮลดิงส์ ได้รับผลกระทบจากเหตุอื้อฉาวกรณีการรั่วไหลของข้อมูลภายในของบริษัทโนมูระ ซีเคียวริตีส์ รั่วไหล ส่งผลให้บริษัทรายใหญ่ๆไม่ได้แต่งตั้งให้โนมูระ ซีเคียวตีส์ทำหน้าที่ออกหุ้นล็อตใหม่ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน