Analysis: นักวิเคราะห์คาดเอเชียผุดมาตรการเพื่อรับมือภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ข่าวต่างประเทศ Friday August 24, 2012 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในขณะที่สหรัฐกำลังเผชิญกับความท้าทายในเรื่องงบประมาณและกลุ่มประเทศยูโรโซนก็กำลังหาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับงบประมาณที่ไร้สมดุลของภูมิภาคนั้น แต่ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียยังคงมีสถานะทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เนื่องจากรัฐบาลของประเทศเหล่านี้ยังคงอัดฉีดงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว

นักวิเคราะห์ระบุว่า เศรษฐกิจแบบเปิดของเอเชียได้รับผลกระทบอย่างมากจากการปรับตัวลงของอุปสงค์จากต่างประเทศ อันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้สินในยูโรโซนและเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐ ยกตัวอย่างเช่น อัตราการขยายตัวของการส่งออกที่ลดลงตลอดทั้งภูมิภาคในเดือนกรกฎาคม โดยจีนลดลง 11.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีมาอยู่ที่ 1% ในเดือนดังกล่าว สิงคโปร์ลดลง 6.6% มาอยู่ที่ 5.8% และเกาหลีใต้ลดลงจากขยายตัว 1% เป็นหดตัว 8.8%

ในขณะเดียวกัน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของภูมิภาคยังปรับตัวลงสู่ระดับต่ำกว่า 50 ในสิงคโปร์และเกาหลีใต้ ขณะที่ฮ่องกงสูงกว่าระดับ 50 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้ว่าการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชนฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่แนวโน้มดังกล่าวอาจจะสะดุดลงหากการส่งออกชะลอตัวลงรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้บริษัทต่างๆ ปรับลดจำนวนพนักงานลง

โนมูระ รีเสิร์ซ คาดว่า จีน ฮ่องกง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และ ไทย อาจจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเชิงรุกมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ในขณะที่จีนก็อาจใช้มาตรการเพิ่มเติมในด้านการลงทุน โดยมุ่งไปที่การลงทุนในที่อยู่อาศัยสาธารณะและโครงการสาธารณูปโภค เช่น รถไฟ ทางหลวง รถไฟใต้ดิน และ สนามบิน

ด้านฮ่องกงอาจจะมุ่งไปที่ มาตรการสกัดเงินเฟ้อ เพิ่มอุปสงค์ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยและให้เงินอุดหนุนด้านที่อยู่อาศัย และการเพิ่มรายได้เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่มีรายได้น้อย ตลอดทั้งการพัฒนาด้านสาธารณูปโภคที่สำคัญ

โนมูระ รีเสิร์ซ คาดว่า มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมที่ประเทศเอเชียส่วนใหญ่ใช้นั้น จะอยู่ในรูปของมาตรการที่ประกาศใช้เพียงครั้งเดียว โดยมีจุดประสงค์เพื่อผ่อนคลายต้นทุนค่าครองชีพและการผันเงินสดไปสู่ครอบครัวที่มีรายได้น้อยและข้าราชการ

ยกตัวอย่างเช่น ในมาเลเซีย การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นอาจเปิดโอกาสให้กับนักการเมืองออกนโยบายที่จำเป็นเพื่อใช้ในการหาเสียง ขณะที่ประเทศไทยได้ประกาศแผนการขายพันธบัตรจำนวนมากเพื่อลงทุนในโครงการบริหารน้ำในระยะยาวและโครงการสาธารณูปโภคอื่นๆ นอกเหนือไปจากโครงการป้องกันน้ำท่วมที่ได้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว ส่วนฟิลิปปินส์ได้มีโครงการให้เงินช่วยเหลือ ซึ่งเรียกว่าโครงการโอนเงินสดตามเงื่อนไข สำหรับกลุ่มประชากรที่ยากจนที่สุดของประเทศ

นักวิเคราะห์ระบุว่า ธนาคารกลางของประเทศเอเชียมีเหตุผลที่ดีในการเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือใช้โอกาสนี้ผ่อนคลายในเรื่องสินเชื่อ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริงยังคงอยู่ในระดับต่ำและอัตราการขยายตังของสินเชื่อที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในเกือบทุกประเทศ โดยบางประเทศกำลังเผชิญกับภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองขนาดใหญ่

นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาอาหารในตลาดโลกในระยะนี้ยังส่งผลให้ธนาคารกลางยังคงระมัดระวังในเรื่องอัตราเงินเฟ้อ

หากราคาอาหารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็อาจส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงต่อไปของปีเนื่องจากอาหารและพลังงานถือเป็นปัจจัยพื้นฐานในการคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคที่มีสัดส่วนรวมกันสูงถึง 43%

หากไม่นับรวมอินเดียซึ่งมียอดขาดดุลงบประมาณจำนวนมากที่เกือบ 6% ของจีดีพี และมีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีที่สูงที่สุดในเอเชียแล้ว เศรษฐกิจเอเชียยังคงมีโอกาสในเรื่องการเพิ่มงบประมาณเนื่องจากประเทศเอเชียมีงบประมาณที่สมดุลมากกว่าในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมในตะวันตกส่วนใหญ่

สำหรับสิงคโปร์ วาระสำคัญอันดับแรกของรัฐบาลก็คือการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสวัสดิการสังคม ดังนั้นสิงคโปร์จึงยังไม่มีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายนโยบายด้านงบประมาณลงอย่างมากในไตรมาสถัดไป หากเศรษฐกิจโลกไม่ได้ย่ำแย่มากจนเกินไป

บทวิเคราะห์โดย ตัน ชีฮ์ หมิง จากสำนักข่าวซินหัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ