สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงแตะสถิติต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) หลังนายเบอร์นันเก้กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิง ว่าเขายังคงวิตกกังกลเกี่ยวกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ “ยังไม่น่าพอใจ" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดแรงงาน
ยูโรเพิ่มขึ้น 0.59% แตะที่ 1.2578 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2504 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปอนด์เพิ่มขึ้น 0.60% แตะที่ 1.5878 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5784 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนตัวลง 0.39% เมื่อเทียบกับเยน แตะที่ 78.290 เยน จากระดับ 78.600 เยน และร่วงลง 0.60% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิส แตะที่ระดับ 0.9544 ฟรังค์ จากระดับ 0.9602 ฟรังค์
ดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.39% แตะที่ 1.0324 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0284 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.70% แตะที่ 0.8032 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7976 ดอลลาร์สหรัฐ
เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเบอร์นันเก้ได้ไม่นาน เนื่องได้จากสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่คาดว่านายเบอร์นันเก้จะส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายในระยะสั้นที่ชัดเจนมากกว่านี้ ก่อนที่จะลดลงอย่างต่อเนื่องจนแตะระดับต่ำสุดในรอบวัน ทั้งนี้ นายเบอร์นันเก้กล่าวว่า “การผลักดันเศรษฐกิจให้มีความอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดแรงงาน เนื่องจากความไม่แน่นอนและข้อจำกัดในเรื่องเครื่องมือด้านนโยบายของเฟด ทำให้เฟดต้องเตรียมมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเอื้ออำนวยต่อการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ตลอดทั้งช่วยให้ตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นอย่างยั่งยืนใน ขณะที่ราคายังคงมีเสถียรภาพ"
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยครั้งล่าสุดนั้น รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนส.ค.พุ่งสูงเกินคาดสู่ระดับ 74.3 จากระดับ 72.3 ในเดือนก่อนหน้านี้ และทำสถิติพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัว