สถานีโทรทัศน์ NET ของทางการกรีซรายงานว่า นายยานนิส สตูร์นาราส รัฐมนตรีคลังของกรีซ กล่าวว่า กรีซได้บรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้นานาชาติว่าด้วยการใช้มาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูประลอกใหม่แล้ว เพื่อแลกกับการรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมในเดือนพ.ย.
"เราบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการใหม่แล้ว และคณะทำงานของยูโรกรุ๊ปจะได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันศุกร์นี้" นายสตูร์นาราส กล่าวกับสื่อในประเทศ
รายงานระบุว่า รมว.คลังได้แจ้งให้ 2 พรรคฝ่ายซ้ายที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลมานาน 4 เดือนได้ทราบว่า ระหว่างการประชุมทางไกลกับผู้สอบบัญชีจากสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) นั้น ทางผู้สอบบัญชีได้ยอมรับในเรื่องที่มีการคัดค้านบางแง่มุมของข้อเสนอปฏิรูปตลาดแรงงาน
เขากล่าวว่าทั้งสองฝ่ายมีการประนีประนอมกัน และบัดนี้รัฐบาลกรีซตั้งใจว่าจะเสนอมาตรการลดค่าใช้จ่าย 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.755 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้รัฐสภาพิจารณาในสัปดาห์หน้า และต้องได้รับการอนุมัติก่อนวันที่ 12 พ.ย. ซึ่งเป็นวันที่ที่ประชุมยูโรกรุ๊ปจะตัดสินว่าจะให้เงินช่วยเหลืองวดต่อไปมูลค่า 3.15 หมื่นล้านยูโรแก่กรีซหรือไม่ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้กรีซผิดนัดชำระหนี้และต้องออกจากยูโรโซน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราส ของกรีซ เตือนว่า เงินสดสำรองของประเทศอาจหมดลงในวันที่ 16 พ.ย.นี้
เมื่อเย็นวันอังคารที่ผ่านมา หลังการประชุมครั้งล่าสุดที่ไร้ข้อสรุปกับผู้แทนรัฐบาลผสมเกี่ยวกับนโยบายใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงการปฏิรูปตลาดแรงงานอย่างเข้มงวดเพื่อหนุนศักยภาพการแข่งขันนั้น นายซามาราสได้เรียกร้องอย่างจริงจังให้มีความเป็นเอกภาพเพื่อบรรลุข้อตกลงและเดินหน้าต่อไป
พรรค Pasok และพรรค Democrartic Left แย้งว่านโยบายที่เข้มงวดในด้านแรงงาน นอกเหนือจากการปรับลดค่าจ้างและเงินบำเหน็จบำนาญครั้งใหม่ และการขึ้นภาษีนั้น จะส่งผลให้มีการว่างงานมากขึ้นและจะนำไปส่ภาวะถดถอยแทนที่จะช่วยหนุนความพยายามในการลดยอดขาดดุลและเริ่มกระตุ้นการขยายตัวเพื่อหลุดพ้นจากวิกฤตหนี้สิน
ทั้งนี้ กรีซพึ่งพาเงินกู้ช่วยเหลือจำนวนหลายพันล้านยูโรโดยแลกกับการดำเนินมาตรการปฏิรูปและรัดเข็มขัดที่เข้มงวดนับแต่เดือนพ.ค.2553 ภายใต้ข้อตกลงช่วยเหลือทางการเงินที่ทำไว้กับบรรดาเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน