ทั้งนี้ ภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 90% ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ โดยครอบคลุมอุตสาหกรรมตั้งแต่สาธารณูปโภคและค้าปลีก ไปจนถึงการเคหะ บริการสุขภาพ และการเงิน ซึ่งแม้ว่าดัชนีปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. แต่ตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
การปรับตัวลงของดัชนีภาคบริการสหรัฐเป็นผลมาจากยอดสั่งซื้อใหม่ที่ร่วงลง ซึ่งบดบังการจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้น โดยในเดือนที่แล้ว ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ร่วงแตะ 54.8 จาก 57.7 ขณะดัชนีการจ้างงานของ ISM พุ่งขึ้นแตะ 54.9 จากระดับ 51.1 ในเดือนก.ย.
การเปิดเผยดัชนีภาคบริการของสหรัฐมีขึ้น หลังจากเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ISM เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.7 ในเดือนต.ค. จากระดับ 51.5 ในเดือนก.ย. ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันที่ภาคการผลิตขยายตัว หลังจากที่หดตัวตลอด 3 เดือนก่อนหน้านั้น