ผู้เชี่ยวชาญเผยศก.สหรัฐเสี่ยงถดถอยหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงงบประมาณได้เร็วๆนี้

ข่าวต่างประเทศ Friday November 30, 2012 12:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หากสภาคองเกรสไม่สามารถตกลงกับทำเนียบขาวเรื่องข้อตกลงด้านงบประมาณ เพื่อสกัดภาวะหน้าผาการคลัง หรือ fiscal cliff ได้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แม้ว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจาก ขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถประนีประนอมกันในเรื่องการจัดเก็บภาษีผู้ที่มีรายได้สูง โดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา โต้ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน ขณะที่รีพับลิกันดูเหมือนว่า จะไม่เห็นด้วยการจัดเก็บภาษีที่สูงขึ้น เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวและการสร้างงาน

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า หากทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถสรุปข้อตกลงได้ภายในช่วงสิ้นปีนี้ สหรัฐก็คงจะต้องปรับขึ้นภาษี และชาวอเมริกันจำนวนมากก็จะรู้สึกถูกกดดันในเรื่องค่าใช้จ่าย จนทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคอ่อนตัวลง และทำให้เกิดภาวะถดถอยอีกครั้ง

แบร์รี่ บอสเวิร์ท ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันบรู๊กกิงส์ และอดีตที่ปรึกษาประธานาธิบดี กล่าวว่า รูปแบบส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยการขึ้นภาษีในวงกว้าง ซึ่งจะทำให้การเกิดภาวะถดถอยในระดับที่ค่อนข้างจะไม่รุนแรง

บอสเวิร์ท กล่าวว่า สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9% ขณะที่สถิติเดือนต.ค.อยู่ที่ 7.9% และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่อ่อนตัวลงในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา อาจจะอ่อนตัวลงไปในระดับประมาณ 0.5%

"การขึ้นภาษีอย่างเต็มรูปแบบจะกินวงกว้างมาก และผลกระทบด้านงบประมาณอย่างเต็มที่จะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนล้านดอลลาร์ ผลกระทบต่างๆจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า และจะอยู่ที่ระดับสูงสุดในช่วงครึ่งปีหลัง" บอสเวิร์ท กล่าว

บอสเวิร์ท กล่าวต่อไปว่า ผู้บริโภคจะเริ่มมีปฏิกริยาในทันทีช่วงไตรมาสแก แม้ว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่จะมีปฏิกริยาในไตรมาสต่อๆไป หากสภาคองเกรสสรุปข้อตกลงได้ในช่วงแรกของปี 2556 และขยายระยะเวลาในการลดภาษี รวมทั้งยกเลิกนโยบายการลดการใช้จ่ายลง

"แม้ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถตกลงกันได้ ซึ่งรวมถึงการคุมเข้มด้านการคลังในปี 2556 และ 2557 การขยายตัวของสหรัฐก็ยังคงมีแนวโน้มว่า จะอยู่ในระดับต่ำอยู่ดี ไม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรก็ตาม"

แอนดี บุช นักยุทธศาสตร์ด้านสกุลเงินและนโยบายสาธารณะของบีเอ็มโอ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า การเจรจาต่อรองกำลังเข้าสู่ช่วงกรอบเวลาที่สำคัญ

ขณะที่ตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นคึกคักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากนั้นก็ปรับตัวลงเมื่อแฮร์รี่ รี้ด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐออกมากล่าวว่า ตนเองผิดหวังกับจังหวะของการเจรจาต่อรอง ซึ่งมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย

ทางฝั่งเดโมแครตเชื่อว่า ชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย.นั้น ทำให้พรรคมีอำนาจในการขึ้นภาษี และคงโครงการให้สิทธิไว้เช่นเดิม

ในทางตรงกันข้าม พรรครีพับลิกันเชื่อว่า การครองเสียงข้างมาในสภาผู้แทนฯทำให้พรรคสามารถอนุมัติให้มีการจัดสำรองสำหรับภาษี และทำข้อตกลงเกี่ยวกับการลดภาษี ลดการให้สิทธิ และแก้ไขโค้ดด้านภาษีเพื่อส่งเสริมการขยายตัวได้มากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ