เชนค้าปลีก "ลอว์สัน" เล็งไทยเป็นฐานดำเนินงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 27, 2012 15:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทาเคชิ นิอินามิ ประธานลอว์สัน อิงค์ ผู้บริหารเครือข่ายร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์กับเกียวโด นิวส์ว่า บริษัทจะรุกเข้าสู่ตลาดไทยในปีงบการเงิน 2555 โดยหวังใช้ไทยเป็นประตูสู่พม่าและตลาดเกิดใหม่อื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ความเคลื่อนไหวของลอว์สันแสดงให้เห็นว่า บริษัทผู้ค้าปลีกรายใหญ่แห่งนี้กำลังเร่งขยายธุรกิจไปต่างประเทศอย่างเต็มสูบ เนื่องจากตลาดในประเทศกำลังหดตัวลง ท่ามกลางประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มจำนวนขึ้น

เขากล่าวว่า ไทยจะกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดสำหรับธุรกิจต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ประเทศไทยมีผู้ที่พูดภาษาอังกฤษได้เป็นจำนวนมาก โดยลอว์สันจะใช้เวลา 5 ปีในการสร้างฐานการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไทย

นายนิอินามิกล่าวว่า แม้บริษัทมีเป้าหมายที่จะจัดตั้งธุรกิจในพม่าปีนี้ แต่ "เราได้ตัดสินใจที่จะวางรากฐานที่มั่นคงในประเทศไทยก่อนที่จะรุกตลาดพม่า เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดจำหน่ายและระบบกฎหมายในพม่ายังไม่เพียงพอ"

เขากล่าวว่า ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ ลอว์วันจึงชะลอแผนการเปิดร้านในอินเดียด้วยเช่นกัน

สำหรับจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดต่างประเทศที่สำคัญ ลอว์สันจะยังคงยึดมั่นในนโยบายการเปิดร้านในกรุงปักกิ่งในปีงบการเงิน 2556 แม้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังย่ำแย่ อันเนื่องมาจากข้อพิพาทเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก โดยความขัดแย้งดังกล่าวเป็นสาเหตุให้หลายบริษัทไม่สามารถทำข้อตกลงทางธุรกิจได้ตามแผน

อย่างไรก็ดี นายนิอินามิชี้ถึงความจำเป็นที่ต้องเลือกแนวคิด "จีนบวกหนึ่ง" เพื่อกระจายความเสี่ยง

เขากล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญสำหรับญี่ปุ่นในการเข้าร่วมเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิก (ทีพีพี) ซึ่งมีเป้าหมายที่จะยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรทั้งหมด รวมถึงข้อตกลงการค้าเสรีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเทศต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยให้บรรดาผู้ค้าปลีกของญี่ปุ่นสามารถแข่งขันได้ ด้วยการส่งออกพืชผลทางการเกษตรคุณภาพจากญี่ปุ่นในต้นทุนต่ำ

นายนิอินามิมีมุมมองไม่สู้ดีนักต่อตลาดญี่ปุ่น ซึ่งเผชิญกับเงินฝืดที่ยืดเยื้อและการแข่งขันที่ดุเดือดกับบรรดาผู้ค้าปลีกในการเปิดร้านใหม่ๆ

เขากล่าวว่า ลอว์สันจะพยายามทำให้ร้านค้าที่มีอยู่ในปัจจุบันดึงดูดลูกค้าเพิ่มมากขึ้นแทนที่จะเปิดสาขาเพิ่ม โดยระบุว่าบริษัทจะเลือกนโยบายที่แตกต่างจากบรรดาคู่แข่งซึ่งจะยังคงเปิดร้านเพิ่มในญี่ปุ่นในปี 2556

เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าของบริษัท นายนิอินามิกล่าวว่า "เราจะไม่พยายามเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของตลาด แต่จะแข่งกับบรรดาร้านในชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้า" ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันว่า ร้านค้าในชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นเต็มไปด้วยสินค้าคุณภาพ

นิอินามิกล่าวว่า เขาออกไปตรวจสอบร้านในชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าด้วยตัวเองเพื่อค้นหาแนวคิดใหม่ๆ โดยเป้าหมายของเขาคือปฏิรูประบบการผลิตและการจัดจำหน่ายของบริษัทให้จัดส่งผักและอาหารพร้อมปรุงระดับพรีเมียมในราคาย่อมเยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ