ส.อ.ท.เปิดตัวโครงการ“SMEs We Care"ช่วยยกระดับความสามารถผู้ประกอบการสู้พิษค่าแรง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 14, 2013 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ได้จัดทำโครงการ “SMEs We Care" เพื่อช่วยยกระดับผู้ประกอบการ ให้สามารถต่อสู้กับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำผ่านการพัฒนาศักยภาพและการเพิ่มประสิทธิภาพในด้านต่างๆ โดยโครงการ “SMEs We Care" เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นภายใต้การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานเอกชน และภาครัฐ ซึ่งมีแนวคิดร่วมกันในการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้สามารถยืนหยัดแข่งขันในตลาดต่อไปได้ รายละเอียดกิจกรรมภายใต้โครงการ “SMEs We Care" มีดังนี้ 1. ส่งเสริม SMEs เพื่อพัฒนานวัตกรรม Creative SMEs 2. โครงการเพิ่มผลิตภาพและพัฒนาประสิทธิภาพในธุรกิจ SMEs ด้านการผลิต (Productivity Improvement) 3. โครงการลดต้นทุนทางด้านโลจีสติกส์ภานในองค์กร Internal Logistic Improvement 4. ส่งเสริมพัฒนาและผลิตเครื่องจักรในประเทศลดการนำเข้า

5. การสร้างความรู้กับความเข้าใจด้าน Productivity Improvementกับผู้ประกอบการ 6. การจัด Focus Group เพื่อรับฟังประเด็นปัญหา/ความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs 7. พัฒนาสินค้า SMEs ให้ได้มาตรฐาน 8. เพิ่มศักยภาพฝีมือแรงงาน 9. ส่งเสริม Venture Capital ซึ่งเป็นแหล่งทุนที่สำคัญของ SMEs อีกทางหนึ่ง 10. ผลักดันรูปแบบความช่วยเหลือทางด้านการเงินต่างๆ สำหรับ SMEs (Financial Package) อาทิ Productivity Improvement Loan 11. การสร้างเครือข่ายในกลุ่ม ASEAN และ สนับสนุนการการค้า / ลงทุนระหว่าง SMEs ไทย กับ SMEs ASEAN 12. F.T.I Factory Outlet ส่งเสริมช่องทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการ SMEs 13. ให้คำปรึกษาสร้างยุทธศาสตร์เชิงรุก AEC ให้กับผู้ประกอบการ

นอกเหนือจากโครงการ “SMEs We Care" ที่จะช่วยเหลือ SMEs ไทยโดยตรงแล้ว สภาอุตสาหกรรมฯ ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผลักดันมาตรการที่เหลืออยู่ต่อภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังดำเนินการหาแนวทางการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบการ เพื่อพัฒนาศักยภาพเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถปรับตัว อีกทั้งมีภูมิคุ้มกัน และยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการได้

นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า การปรับค่าขึ้นค่าแรง 300 บาท ทั่วประเทศ ที่มีผลไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2556 ทำให้เกิดผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม หรือ SMEs ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่แตกต่างกัน ทำให้ไม่สามารถแบกรับภาระต่อไปได้เนื่องจากต้นทุนการประกอบการที่สูงขึ้น อีกทั้งมาตรการที่ได้รับการอนุมัติจากภาครัฐจำนวน 5 มาตรการนั้น ยังเป็นมาตรการที่ยังไม่ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs และเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุด อาทิ มาตรการทางด้านภาษี และสินเชื่อที่ออกมานั้น ให้ประโยชน์เพียงผู้ประกอบการที่สามารถผ่านวิกฤติได้ด้วยตนเอง โดยที่มาตรการภาษีจะส่งเสริมให้มีความสามารถในการทำกำไรได้เพิ่มขึ้น มีรายได้มากขึ้น หรือหากสามารถกู้ยืมเงินเพื่อขยายงาน ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น การเปลี่ยนเครื่องจักร เปลี่ยนอุปกรณ์ เป็นต้น ซึ่งไม่ตรงกับเป้าหมายที่สภาอุตสาหกรรมฯ เสนอไป คือ ต้องการให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลาง และเล็ก หรือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ซึ่งอาจจะเกิดจากการมองเห็นปัญหาในมุมมองที่แตกต่างกัน โดยภาครัฐอาจเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันเรื่อง การชดเชยส่วนต่างค่าแรง ที่เห็นว่ามีความจำเป็นอย่างมาก ซึ่งสภาอุตสาหกรรมฯ จะร่วมกับ กกร. ผลักดันอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ