(เพิ่มเติม) ธปท.ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 55 โต 5.9%, ปี 56 โต 4.9% เงินเฟ้อคงเดิม

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 18, 2013 15:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไพบูลย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อฉบับล่าสุด โดยปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 55-56 เพื่อสะท้อนการเติบโตดีขึ้นจากอุปสงค์ในประเทศที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชน คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ปี 55 จะอยู่ที่ 5.9% จากเดิม 5.7% และปี 56 GDP จะอยู่ที่ 4.9% สูงจากคาดการณ์เดิมที่อยู่ในระดับ 4.6%
"เศรษฐกิจปี 55-56 คาดว่าจะขยายตัวดีกว่าที่ประมาณการไว้ โดยการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ ธปท.ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 55 จาก 5.7% เป็น 5.9% และปี 56 จาก 4.6% เป็น 4.9% โดยได้ปรับเพิ่มประมาณการขยายตัวการบริโภคเอกชนในปี 55 จาก 5.8% เป็น 6.3% และปี 56 จาก 3.8% เป็น 4.3% ส่วนการลงทุนภาคเอกชนปี 55 ปรับเพิ่มจาก 12.4% เป็น 16.5% และ ปี 56 จาก 6.8% เป็น 12.1%"นายไพบูลย์ กล่าว

ธปท.คาดว่าการส่งออกในปี 55 จะขยายตัว 3.6% และเพิ่มเป็น 9% ในปี 56 โดยมองว่าการส่งออกพ้นจุดต่ำสุดแล้ว โดยจะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติในช่วงครึ่งหลังของปี 56 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ความเสี่ยงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้ามีน้อยลงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพมากขึ้น การแก้ไขปัญหาของกรีซมีความชัดเจนขึ้น ทำให้ตลาดเชื่อมั่นว่ากรีซจะยังอยู่ในกลุ่มยูโรโซนต่อไป

ส่วนเศรษฐกิจสหหรัฐแม้จะมีข้อตกลงเรื่อง fiscal cliff ช่วยบรรเทาความไม่แน่นอน และช่วยให้ตลาดการเงินเข้มแข็งขึ้น แต่ก็ยังมีการเจรจาการแก้ไขเพดานหนี้ที่ต้องติดตามในช่วง 1-2 เดือน

"ปัจจัยเศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่แรงส่งในประเทศมีมากขึ้น สุทธิแล้วความเสี่ยงการขยายตัวเศรษฐกิจไทยลดลง แต่ลดน้อยกว่าเดิม"นายไพบูลย์ กล่าว

ด้านอัตราเงินเฟ้อยังไม่น่ากังวล เพราะแรงกดดันต่อต้นทุนอยู่ในระดับต่ำ จากที่อุปสงค์ในประเทศและการลงทุนในประเทศทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อสูงขึ้นในด้านบวก โดยมองราคาน้ำมันดิบในปีนี้จะทรงตัวที่ 105 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปีก่อนปรับเพิ่มจาก 108 เป็น 109 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นมีแนวโน้มต่ำกว่าการคาดการณ์เดิม ขณะที่การปรับค่าจ้างขั้นต่ำคาดว่าจะไม่ท่าให้ระดับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ

ดังนั้น โดยรวมเงินเฟ้อไม่เปลี่ยนแปลงทำให้ประมาณการเงินเฟ้อไว้ที่เดิม คือ ปี 55 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 2.1% และปี 56 อยู่ที่ 2.7% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 55 อยู่ที่ 3% และปี 56 อยู่ที่ 2.8%

อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังต้องติดตามประเด็นความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจการเงินอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายที่จะมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงจากการเร่งตัวของสินเชื่อและหนี้ภาคครัวเรือน และผลจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ารอบสองต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ซึ่งอาจจะมีผลทางจิตวิทยาต่อการขึ้นราคาสินค้า อาจเป็นแรงกดดันของเงินเฟ้อในระยะต่อไปได้

นายไพบูลย์ กล่าวว่า การจัดทำประมาณการครั้งนี้ยังไม่ได้รวมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งหากมีความชัดเจนเรื่องการออก พ.ร.บ.และกรอบระยะเวลาการดำเนินโครงการแล้ว ธปท.พร้อมจะนำมาพิจารณาในการจัดทำประมาณการใหม่ รวมถึงการคาดการณ์เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนในระยะต่อไป หลังจากที่ในช่วงที่ผ่านมาเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการปรับสมติฐาน เนื่องจากมองว่าความผันผวนของค่าเงินในขณะนี้ยังเป็นเหตุการณ์ระยะสั้นและต้องติดตามต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ