ผู้ว่าการ ธปท.ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณการโจมตีค่าเงินบาท เพราะยังไม่เห็นลักษณะการทุบราคาหรือสร้างราคาที่เป็นการชี้นำไปทางใดทางหนึ่ง แต่ยอมรับว่ามีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนก็ยังไม่แน่ใจว่าทิศทางค่าเงินบาทจะเป็นอย่างไร แต่จากการติดตามดูการซื้อขายในตลาดตราสารหนี้แต่ละวันจะเห็นว่ามีการซื้อขายสมดุลกัน ขึ้นกับว่านักลงทุนจะเลือกกำหนดราคาใด
ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรวมมีเงินไหลเข้าสุทธิประมาณ 2 พันล้านเหรียญ โดยเฉพาะจากอินเวสเม้นท์แบงก์กิ้งและกองทุน ซึ่งค่าเงินบาท ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้แข็งค่าขึ้นราว 3% แต่รวมกับเมื่อสิ้นปี 55 จะแข็งค่าขึ้นประมาณ 5-6% ถือว่าน้อยกว่าเมื่อเทีนบกับค่าเงินของเกาหลีใต้ที่แข็งค่าขึ้น 9% ฟิลิปปินส์ 7% และอยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิงคโปร์ มาเลเซีย และไต้หวันที่ค่าเงินแข็งค่าชึ้น 5%
นายประสาร กล่าวว่า ธปท.ยังไม่อยากให้ความเห็นถึงจังหวะเวลาและมาตรการที่จะนำมาใช้ดูแลค่าเงินบาท แต่มีเครื่องมือพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งเร็ว ๆ นี้จะมีการหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)และสภาหอการค้า เพื่อชี้แจงและติดตามผลกระทบของค่าเงินบาทที่มีต่อภาคเอกชน เนื่องจากเอกชนบางรายได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท
โดยปกติธุรกิจจะได้รับผลกระทบหรือไม่ต้องพิจารณา 3 ส่วนคือ มีการนำเข้าวัตถุดิบมากน้อยแค่ไหน หรือใช้วัตถุดิบในประเทศ, เป็นการผลิตเพื่อส่งออกหรือขายในประเทศมากกว่ากัน และถ้าส่งออกให้ประเทศคู่ค้าที่มีค่าเงินอ่อนกว่าก็ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก, อัตรากำไรสูงหรือไม่ ถ้าอยู่ในระดับสูงก็ไม่น่ามีปัญหามาก