ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3026 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0314 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงมาอยู่ที่ 1.4910 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4931 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.0318 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0271 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 95.91 เยน จากระดับ 96.28 เยน และขยับลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9472 ฟรังค์ จากระดับ 0.9477 ฟรังค์
สกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจากนายเยนส์ ไวด์มันน์ ประธานธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของอีซีบี กล่าวว่า วิกฤตหนี้สาธารณะและการเงินยูโรโซนยังถือเป็นความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดสำหรับเศรษฐกิจเยอรมนี แม้ในช่วงที่ผ่านมาตลาดการเงินจะมีความเคลื่อนไหวที่ดีขึ้นก็ตาม
"จนถึงขณะนี้ มีเพียงความเชื่อมั่นบางส่วนเท่านั้นที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่สูญเสียไปอันเนื่องมาจากวิกฤต" นายไวด์มันน์กล่าวในการแถลงงบดุลประจำปีของธนาคารกลางยุโรปเมื่อวานนี้
นอกจากนี้ ประธานบุนเดสแบงก์กล่าวถึงความเสี่ยงซึ่งเกิดจากการดำเนินนโยบายการเงินภายหลังจากที่เกิดวิกฤตหนี้สาธารณะและการเงิน โดยอธิบายว่า ในปีที่ผ่านมา ความเสี่ยงด้านเครดิตของคู่สัญญาได้เพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากการกู้เงินเพื่อชำระหนี้เงินกู้เดิม และการซื้อพันธบัตร
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสภานิติบัญญัติญี่ปุ่นเปิดเผยว่า พรรคฝ่ายค้าญี่ปุ่นตัดสินใจสนับสนุนนายฮารุฮิโกะ คุโระดะ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจ และส่วนหนึ่งไม่สนับสนุนนายอิวาตะให้เป็นรองผู้ว่าบีโอเจ
ส่วนเงินปอนด์ร่วงลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.ของอังกฤษหดตัวลง 1.2% เนื่องจากการระงับการผลิตที่แท่นน้ำมันในทะเลเหนือทำให้ผลผลิตน้ำมันและแก็สลดลง