ธปท.ให้เวลาแบงก์พาณิชย์ลดดอกเบี้ยตามกนง.หลังเห็นการส่งผ่านไปถึงตลาดอินเตอร์แบงก์

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 4, 2013 16:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า คงต้องให้เวลากับธนาคารพาณิชย์ในการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงมา 0.25% เพราะขณะนี้มีการส่งผ่านนโยบายการเงินมาถึงในตลาด Interbank แล้ว โดยอัตราดอกเบี้ยในการทำสวอป และการกู้ยืมระยะสั้นลดลงมาแล้ว แต่การจะส่งผ่านไปที่ส่วนอื่นอาจจะยังต้องมีปัจจัยแวดล้อมจำนวนมาก

“ขณะนี้คงต้องให้เวลาแบงก์สักระยะหนึ่ง อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าแบงก์จะไม่ปรับลดดอกเบี้ยลง เพราะ กนง.(คณะกรรมการนโยบายการเงิน) เพิ่งมีมติปรับดอกเบี้ยนโยบายลงไป เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา แบงก์คงต้องใช้เวลาดูต้นทุนและรายละเอียดต่างๆ อีกสักระยะ"นางผ่องเพ็ญ กล่าว

สำหรับภาวะเศรษฐกิจเดือน เม.ย.ที่ประเทศไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 17 ปีนั้น นางผ่องเพ็ญ กล่าวว่า คงต้องดูในรายละเอียดของสาเหตุเป็นการขาดดุล หากเป็นเพราะมีการนำเข้าสูงขึ้น ก็ต้องดูว่านำเข้าสินค้าประเภทใด หากเป็นการนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบในการผลิตก็ถือเป็นประโยชน์ต่อการสร้างรายได้ในอนาคต แต่หากเป็นการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี

“ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการนำเข้ามาเพื่อการลงทุนเพื่อการเจริญเติบโตข้างหน้า เพราะรายได้ยังไม่เข้ามา มีแต่รายจ่ายไปก่อน เพราะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต้องใช้เวลาหลายปี ขณะที่การส่งออกคงเป็นไปตาม Global trade เวลาดูตัวเลขพวกนี้อย่าดูผิวเผิน ซึ่งในระยะข้างหน้าถ้าไทยต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 3.5 แสนล้านบาท ลงทุน 2 ล้านล้านบาท และมีการลงทุนของภาคเอกชนตามมาด้วย ตัวเลขนำเข้าของไทยจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ ขณะนี้เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย นำเข้ายังสูงถึงขนาดนี้ ดังนั้นถ้าส่งออกทรงตัวหรือดีขึ้นไม่มาก เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ดีมากนัก ตัวเลขนำเข้าคึกคักต้องไปดูรายละเอียด"นางผ่องเพ็ญ กล่าว

นอกจากนี้ นางผ่องเพ็ญ คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/56 จะยังมีแรงส่งจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของภาครัฐหากเข้ามาตามแผนที่วางไว้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย แต่หากภาครัฐลงทุนได้ล่าช้า การลงทุนภาคเอกชนก็จะล่าช้าตามไปด้วย เพราะการส่งออกที่ชะลอตัวลงก็ทำให้การลงทุนของกลุ่มผู้ผลิตน้อยลงไปอยู่แล้ว

“ขณะนี้จึงหวังเรื่องรายจ่ายรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไปเป็นหลัก"นางผ่องเพ็ญ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ