ณ เวลา 09.51 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.1% แตะที่ 1.3102 ยูโร แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.1% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 97.61 เยน
ข้อมูลที่แข็งแกร่งของสหรัฐในวันนี้ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า เฟดอาจจะตัดสินใจลดขนาด QE โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 3.6% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3% เนื่องจากความต้องการสินค้าประเภทต่างๆปรับตัวสูงขึ้น ตั้งแต่เครื่องบินพาณิชย์ไปจนถึงเครื่องจักร ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น
ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยว่า ราคาบ้านเดือนเม.ย.ในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาดเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 2.1% แตะระดับ 476,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.ค. ปี 2551 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายบ้านจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 462,000 ยูนิต/ปี
เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดจะได้รับในวันข้างหน้านั้นบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือชะลอกการทำ QE ภายในปีนี้ และหากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงออกมาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ เฟดก็จะยังคงลดขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และจะสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรประมาณกลางปีหน้า