ครม.อนุมัติงบประมาณ 4.3 พันลบ.แทรกแซงราคาข้าวโพดปี 56/57

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 1, 2013 17:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่มีเกษตรกรหลายพื้นที่ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาตกต่ำ ว่า มาจากประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1) ปัญหาความไม่ชัดเจนและความสับสนในการจดทะเบียนออกใบรับรองเกษตรกรเพื่อเข้าร่วมมาตรการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปี 56/57 ทำให้เกษตรกรบางส่วนไม่มั่นใจว่าจะได้รับสิทธิหรือไม่ และ 2) ปัญหาเรื่องของราคาข้าวโพด ซึ่งเกษตรกรมีความเป็นห่วงว่าราคาจะตกต่ำลง จากเป้าหมายอยู่ที่ ราคา 9 บาท/กก. ณ ความชื้น 15% แต่ว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคายังต่ำมาก

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด โดยได้มอบหมายให้นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ ลงไปในพื้นที่เพื่อหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ประกอบการและเกษตรกร เพื่อนำข้อสรุปที่ได้เสนอคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดแห่งชาติเมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการข้าวโพดฯ มีข้อสรุป คือ เกษตรกรที่เคยได้รับสิทธิในการช่วยเหลือให้สามารถเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลในปี 56/57 เช่นปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จะได้ดำเนินการต่อไป

ส่วนเรื่องราคานั้น ต้องดำเนินการ 2-3 เรื่อง 1. ผู้ประกอบการโรงงานผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ 5-6 ราย ยินดีที่จะรับซื้อเมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามราคาเป้าหมาย (ราคา 9 บาท/กก. ณ ความชื้น 15%) 2. ข้าวโพดที่มีความชื้นต่ำกว่านี้ (ราคา 7 บาท/กก. ณ ความชื้น 30%) ซึ่งมีจำนวนมากก็จะมีการแทรกแซงราคารับซื้อ เพื่อให้ข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ราคาที่ตามที่ควรจะเป็น 3.เร่งระบายการส่งออกอีกทางหนึ่ง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาภายในประเทศ ซึ่งการดำเนินการทั้ง 3 เรื่องคาดว่าจะใช้งบประมาณ ประมาณ 4,300 ล้านบาท

ขณะที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ก็ได้มีมติอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม ตามมาตรการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2556/57 โดยใช้งบประมาณจากเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นปี 2557 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ 1. การแทรกแซงรับซื้อ เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนเกษตรกรที่มีสิทธิในการเข้าร่วมมาตรการเพิ่มขึ้นประมาณ 245,000 ราย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.66 จึงให้ขยายเป้าหมายการแทรกแซง รับซื้อโดยผู้รวบรวม ที่กำหนดให้รับซื้อข้าวโพดเมล็ดจากเกษตรกรในราคา กก.ละ 7.00 บาท ณ ความชื้น 30% (กก.ละ 9.00 บาท ณ ความชื้น 14.5%) จากเป้าหมาย 1.00 ล้านตันเมล็ด วงเงิน 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีก 0.875 ล้านตันเมล็ด รวมเป็น 1.875 ล้านตันเมล็ด ซึ่งจำเป็นต้องขอรับจัดสรรเงินจ่ายขาดเพิ่มเติมเป็น วงเงิน 1,312.50 ล้านบาท

2. การชดเชยค่าขนส่งให้ผู้รวบรวมและสหกรณ์ผู้รวบรวม ใน 6 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อให้ผู้รวบรวมและสหกรณ์ผู้รวบรวม ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา ตาก และแม่ฮ่องสอน ซึ่งสถานประกอบการตั้งอยู่บนพื้นที่เขาสูงที่มีความยากลำบากในการขนส่ง ประกอบกับการจำหน่ายของ ผู้รวบรวมจะต้องนาผลิตมาจำหน่ายให้กับโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จังหวัดลาพูน และพิษณุโลก ตามลำดับ ทำให้มีต้นทุนค่าขนส่งสูง จึงขอรับการชดเชยค่าขนส่งให้คุ้มค่าต่อการรับซื้อข้าวโพดเมล็ดจากเกษตรกรในราคา กก.ละ 7.00 บาท ณ ความชื้น 30% (กก.ละ 9.00 บาท ณ ความชื้น 14.5%) โดยจ่ายชดเชยค่าขนส่งแก่ผู้รวบรวมและสหกรณ์ผู้รวบรวม ตามระยะทางที่เกิดขึ้นจริง (ซึ่งเกินกว่า 150 กม.ขึ้นไป) ในอัตราเดียวกับโครงการรับจำนาสินค้าเกษตรของรัฐบาล ซึ่งจำเป็นต้องขอรับจัดสรรเงินจ่ายขาดเพิ่ม วงเงิน 175 ล้านบาท

3. การเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ให้ปรับเพิ่มมาตรการเสริม การเสริมสภาพคล่องจากเดิม ที่กำหนดเป้าหมายในการจ่ายชดเชยดอกเบี้ยที่ 0.24 ล้านตัน อัตราชดเชยร้อยละ 2 ต่อปี ระยะเวลา 6 เดือน วงเงินกู้รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท วงเงิน 17.25 ล้านบาท ปรับเพิ่มเป็น เป้าหมายในการจ่ายชดเชยดอกเบี้ยที่ 1.0 ล้านตัน วงเงินกู้รายละไม่เกิน 10 ล้านบาท วงเงิน 70 ล้านบาท ซึ่งจำเป็นต้องขอรับจัดสรรเงินจ่ายขาดเพิ่มวงเงิน 52.75 ล้านบาท

4. การผลักดันการส่งออก เพื่อบริหารจัดการปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ส่วนเกินของตลาดประมาณ 2 ล้านตัน ที่คาดว่าจะออกในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2556 โดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาภายในประเทศ ตามหลักอุปสงค์-อุปทาน จำเป็นต้องเร่งผลักดันการส่งออกโดยด่วนที่สุด เนื่องจากราคาส่งออกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ล่วงหน้าตลาดชิคาโกในช่วงเดือนสิงหาคม 2556 อยู่ที่ 7.00—7.15 บาท/กก. แต่ในเดือนกันยายน 2556 ราคาได้ปรับลดลงเหลือ 6.00-6.30 บาท/กก. ประกอบกับในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2556 ผลผลิตของประเทศอินเดียจะเริ่มออกสู่ตลาด ทำให้โอกาสในการส่งออกของประเทศไทยลดลง จึงจำเป็นต้องเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ส่งออก จากเดิมที่กำหนดเป้าหมายการผลักดันส่งออก ที่ 0.3 ล้านตัน โดยให้ผู้ส่งออกรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เมล็ด กก.ละ 7.50 บาท ความชื้น 14.5% จาก ผู้รวบรวมและสหกรณ์ผู้รวบรวมที่เข้าร่วมมาตรการฯ และได้รับชดเชยค่าบริหารจัดการในอัตรา กก.ละ 0.50 บาท ปรับเป็นการกำหนดเป้าหมายที่ 0.5 ล้านตัน และให้ผู้ส่งออกได้รับชดเชยราคาและค่าบริหารจัดการ รวม กก.ละ 2.00 บาท ซึ่งจำเป็นต้องขอรับจัดสรรเงินจ่ายขาดเพิ่ม วงเงิน 850 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ