พาณิชย์ ยันไม่พบห้างร้านกักตุนสินค้า-โก่งราคาในช่วงชัตดาวน์กรุงเทพฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 15, 2014 17:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงการชุมนุมปิดกรุงเทพฯว่า จากการตรวจสอบกำลังซื้อและการเตรียมความพร้อมของห้างค้าปลีกในช่วงที่มีสถานการณ์ชุมนุมทางการเมือง ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาสินค้าขาดแคลน เกิดการกักตุน และขายราคาเกินจริง แต่ได้รับแจ้งว่ายอดขายของห้างค้าปลีกบางแห่งลดลงแล้ว 5% จากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นเพราะอารมณ์ของผู้บริโภคที่วิตกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยน้อยลง

สำหรับการตรวจสอบราคาสินค้าผักและผลไม้แหล่งใหญ่ในจังหวัดนครปฐมและราชบุรี ซึ่งเป็นตลาดศูนย์กลางค้าส่งผักสดรายใหญ่ในภาคกลางและป้อนไปถึงภูมิภาคอื่นๆ ในวันนี้พบว่า ผักสดยอดนิยมยังมีปริมาณและราคาปกติ เช่นคะน้า ถุง 5 กิโลกรัม (กก.) ราคา 50 บาท, กวางตุ้ง กก.ละ 40 บาท, พริกสด กก.ละ 40 บาท เป็นต้น ซึ่งหากเทียบราคากับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ถือว่าราคายังไม่แตกต่างกันมากนัก ขณะที่ผักบางชนิดมีราคาลดลง เพราะอากาศเย็นทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดมากและได้รับความเสียหายน้อย

"กรมการค้าภายในจะยังเฝ้าระวังและออกตรวจสอบตลาดสดและแหล่งกระจายสินค้าที่สำคัญ ซึ่งในพรุ่งนี้(16 ม.ค.) นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ จะไปตรวจสอบที่ตลาดไท ที่เป็นตลาดค้าส่งผักผลไม้ขนาดใหญ่ของจังหวัดปทุมธานีด้วย" นายสมชาติ กล่าว

ส่วนราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มที่ราคาขยับขึ้นมาอยู่ที่กก.ละ 71 บาท และส่งผลต่อเนื่องให้ราคาขายปลีกเนื้อหมูขยับขึ้นมาอยู่ที่กก.ละ 121-122 บาท หากเป็นหมูตัดแต่งราคาจะอยู่ที่กก.140-150 บาทนั้น เกิดจากปริมาณหมูออกสู่ตลาดลดลงจากสภาวะอากาศผันผวน ทำให้หมูโตช้า ประกอบกับความต้องการบริโภคจะสูงขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีนปลายเดือนม.ค.นี้ จึงทำให้เกิดการแข่งขันซื้อหมูต้นทาง

อย่างไรก็ดี กรมการค้าภายในได้หารือและขอความร่วมมือกับผู้เลี้ยงหมูให้ตรึงราคาอยู่ในระดับดังกล่าว หรือแม้จะปรับราคาขึ้นอีก ก็ไม่อยากให้ปรับขึ้นเกินกก.ละ 2-3 บาท เพื่อให้หมูปลายทางไม่เกินกก.ละ 130-150 บาท ขณะเดียวกันจะติดตามราคาอาหารโปรตีนชนิดอื่นด้วย เช่น เนื้อไก่ ไข่ไก่ เพื่อไม่ให้ราคาขยับสูงขึ้นเกินความเป็นจริงในช่วงเทศกาลตรุษจีน

ด้านนายสุเกียรติ กิตติธรรมโชติ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ห้างเทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ในช่วง 3 วันของการชัตดาวน์ ยังไม่พบภาวะกักตุนสินค้าของผู้ประกอบการและประชาชน การจำหน่ายในแต่ละสาขายังถือว่าปกติ ซึ่งขณะนี้ยอดขายอาจจะลดลงบ้าง เพราะปกติหลังปีใหม่ยอดขายจะแผ่วลง แต่จะกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงตรุษจีนปลายเดือนม.ค. แม้ในสาขาที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุมคือ สาขาลาดพร้าว และสาขาพระราม 1 ก็ได้อานิสงส์จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม อาหารขบเคี้ยว และอาหารปรุงสำเร็จ ซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว โดยยืนยันว่าห้างจะมีสินค้าเพียงพอกับความต้องการและไม่เกิดภาวะขาดแคลน เพราะได้เตรียมสต๊อกสินค้าไว้แล้วเกิน 1 เดือน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ