นักบริหารเงินธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.55/57 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.56/58 บาท/ดอลลาร์
วันนี้คาดว่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทิศทางเงินบาทวันนี้ คือ การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งต้องติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศ, flow ที่ไหลเข้าออกในตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน
"วันนี้บาทคงแกว่งแคบๆ เหมือนเดิม ล่าสุดบาทอ่อนค่าไปอยู่ที่ระดับ 32.59 บาท/ดอลลาร์ วันนี้คงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของแต่ละ zone ที่เริ่มทยอยออกมา รวมทั้งการเมืองในประเทศ และ flow ของเงิน และที่สำคัญพรุ่งนี้ต้องติดตามการชี้มูลของ ป.ป.ช.เรื่องจำนำข้าว" นักบริหารเงิน ระบุนักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.70 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 32.5617 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (25 ก.พ.) อยู่ที่ 2.08861% และ THAI BAHT FIX 6M (25 ก.พ.) อยู่ที่ 2.06513%
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.31/35 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 102.37 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร เปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.3743/3745 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3744 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ 32.5170 บาท/ดอลลาร์
- ผู้ว่าการ ธปท.เปิดใจในคอลัมน์ "จดหมายจากผู้ว่าการถึงอาจารย์ ป๋วย" ระบุว่ากังวลใจปัญหาการเมือง หากยืดเยื้อจะซ้ำเติมความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุนทั้งในและต่างชาติได้ รวมถึงมีผลต่อการแข่งขันในระยะยาว แนะปรับเปลี่ยนทัศนคติ และคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะเป็นที่ตั้ง
- 'ณรงค์ชัย'แย้ม กนง.12 มี.ค. กังวลหนี้ภาครัฐเข้าขั้นวิกฤต หวั่นกระทบเครดิตประเทศ สะเทือนตลาดเงินไทย เชื่อพื้นฐาน ศก.ตั้งรับปัจจัยเสี่ยงการเมืองไทย ย้ำใช้นโยบายการเงินดูแลเสถียรภาพ แต่อย่าหวังดันจีดีพีเป็นบวก
- ซีไอเอ็มบีมองดอกเบี้ยขาลง-เศรษฐกิจ ชะลอลูกค้าหันเน้นเงินฝากระยะยาว เล็งออกเงินฝาก 12 เดือนดอกเบี้ย 3% ในสัปดาห์หน้า ยอมรับว่าเงินฝาก 2 เดือนแรกโตช้า เผยได้เงินจากธอส.-ออมสินมาแค่ 1-2 พันล้าน
- คลังผวาการเมืองฉุดบริโภค-ลงทุนทรุด นำเข้าระส่ำ ท่องเที่ยวน่าเป็นห่วง ยังเชื่อปี 57 จีดีพียังแกร่งโต 3.1% สรรพากรโอดการเมืองกระทบแผนรีดภาษีสะเทือน กนง.ย้ำดูแลเสถียรภาพการเงิน
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลสินเชื่อเงินฝาก และสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือน ม.ค. 2557 พบว่า มียอดสินเชื่อรวม 9.489 ล้านล้านบาท ลดลงประมาณ 3,480 ล้านบาท จากยอดคงค้าง 9.493 ล้านล้านบาท เมื่อสิ้นปี 2556 เป็นผลทั้งจากแรงกดดันด้านปัจจัยฤดูกาลชำระคืนสินเชื่อของลูกค้าและการชะลอเบิกสินเชื่อใหม่เพื่อรอดูความชัดเจนของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศ โดยเป็นการปรับตัวลดลงในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดเล็กขณะที่สินเชื่อในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น
- ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้(25 ก.พ.) เนื่องจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคที่อยู่อาศัย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ซบเซา
- คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชน เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงในเดือนก.พ.สู่ระดับ 78.1 จากระดับ 79.4 ในเดือนม.ค. เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ โดย ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.3% เมื่อเวลา 09.41 น.ตามเวลาโตเกียว หลังตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ นอกจากนี้นักลงทุนยังวิตกกังวลกับการร่วงลงอย่างหนักของค่าเงินหยวน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ จะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์น้ำมันดิบอาจชะลอตัวลง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 99 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 101.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1% 109.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
- หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ระบุว่า อียูกำลังพิจารณาที่จะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ยูเครน เพื่อช่วยให้ยูเครนจัดการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้อียูร่วมกับผู้ให้กู้รายอื่นๆ โดยเฉพาะกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) พร้อมที่จะให้เงินกู้แก่ยูเครน แต่ก็ต่อเมื่อรัฐบาลยูเครนดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ขณะที่กระทรวงการคลังของยูเครนระบุว่า ประเทศต้องการเงินช่วยเหลือประมาณ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ
- คณะกรรมาธิการยุโรป คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงในปี 2557 จะขยายตัว 1.5% ในอียู และขยายตัว 1.2% ในยูโรโซน และจะขยายตัวเร็วขึ้นในปี 2558 ที่อัตรา 2.0% และ 1.8% ในอียูและยูโรโซน ตามลำดับ