ตลาดจับตาดูผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) วันนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.00% ตามเดิมจนถึงช่วงปลายปี เนื่องจากไม่มีปัจจัยที่กดดันให้เงินบาทแข็งค่าแล้ว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 32.65-32.75 บาท/ดอลลาร์
"ผลประชุมไม่น่าจะมีผลต่อค่าเงินบาทมากนัก เพราะมีปัจจัยหนุนจากค่าเงินดอลลาร์มากกว่า" นักบริหารเงิน กล่าวล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.6950 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(10 มี.ค.) อยู่ที่ 2.03915% และ THAI BAHT FIX 6M(10 มี.ค.) อยู่ที่ 1.97444%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 121.30 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 121.76 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0700 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0754 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.6420 บาท/ดอลลาร์
- ลุ้น "กนง." นัดถกชี้ชะตานโยบายดอกเบี้ย วันนี้ (11 มี.ค.) ภาคการผลิตและส่งออกแนะให้ลดลงมาอย่างน้อย 0.25% หวังสกัดบาทแข็งค่าหลังกระทบส่งออก ขณะที่ "รศ.ดร.สมภพ" นักวิชาการมองต่างแนะคงไว้ควรเก็บกระสุนไว้ใช้ยามจำเป็น ชี้อีก 3 เดือนข้างหน้ามีปัจจัยเสี่ยงกว่าเพียบ โดยเฉพาะเฟดขึ้นดอกเบี้ย เงินไหลออกน่ากลัวกว่า
- ภาคเอกชนลุ้นระทึก หวังแบงก์ชาติหั่นดอกเบี้ยนโยบายลงอีก เพื่อกดให้ค่าเงินอ่อนลง สอท.หวังลดทันที 0.50 บาท หอการค้า วอนช่วยผู้ส่งออกไทยให้แข่งขันได้ ชี้หุ้น-ตลาดเงิน จับตาประชุม กนง.วันนี้ ด้านนักวิชาการแนะไม่ควรรีบลดตอนนี้ควรรอดูผลจากเฟดขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นและกลางเสียก่อน เพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่รุนแรงกว่า
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย-หอการค้าไทยประสานเสียงอีกรอบ จี้แบงก์ชาติ-กนง.ลดดอกเบี้ยโดยด่วน ชี้อยากให้ลง 50 สตางค์ แต่ถ้าไม่ได้อย่างน้อย 25 สตางค์ก็ยังดี เพราะคิวอียุโรปเริ่มอัดฉีดเงินแล้ว
- นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ (ต.ค. 2557-ก.พ. 2558) สามารถเบิกจ่ายได้ 8.05 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 17.92% ของงบลงทุน 4.49 แสนล้านบาท ถือว่าสูงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับปีก่อนสามารถเบิกจ่ายได้ 7.61% เท่านั้น มั่นใจเบิกจ่ายงบลงทุน ไตรมาสสองทะลุเป้าที่ 40% และทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างได้ 100% หลังนายกรัฐมนตรีกำชับทุกส่วนราชการ ระบุ "ยอดเบิกจ่าย-การทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง" สูงกว่าปีงบประมาณก่อนๆ มาก พร้อมนำร่อง 12 หน่วยงานให้จัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยลดขั้นตอน-ค่าใช้จ่ายจัดซื้อจัดจ้างลง
- แบงก์ชาติร่อนหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงินทุกแห่งเปิดทางช่วยเหลือให้ลูกหนี้สามารถยื่นขอกู้เงินสถาบันการเงินคล่องขึ้น แนะให้สถาบันการเงินปรับเงื่อนไขสัญญาเงินกู้ให้ผู้ค้ำประกันต้องทำสัญญาตกลงผูกพันค้ำประกันหนี้ของลูกหนี้และให้สิทธิแก่สถาบันการเงินสามารถหักเงินฝากของผู้ค้ำประกันมาชดใช้หนี้ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฯ เปลี่ยนให้การรับผิดชอบร่วมของผู้ค้ำประกันถือเป็นโมฆะ
- "พท.-ปชป." ประสานเสียงคัดค้านเก็บภาษีที่ดินฯซัดเหมือนคนไทยต้องเช่าแผ่นดินอยู่ทำปชช.เดือดร้อน-เศรษฐกิจหยุดชะงัก "มาร์ค" ขย่มซ้ำหลักคิดทุนนิยมลั่นไม่ตรงเป้าหมายแก้ความเหลื่อมล้ำด้านทรัพย์สินจี้รัฐทบทวนด้าน "เสธ.ไก่อู" เผยนายกฯบี้คลังแจงสาเหตุจำเป็นเก็บภาษีพัฒนาปท.ไม่ได้ขูดรีดปชช.
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 30 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 10,770 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,165.02 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.26 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง
- China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวลง 0.25% แตะที่ 6.1597 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะสูงขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ลดลง 1.71 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน เม.ย.ร่วงลง 2.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย.ร่วงลง 6.4 ดอลลาร์ หรือ 0.55% ปิดที่ระดับ 1,160.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน มี.ค.ลดลง 14.3 เซนต์ ปิดที่ 15.633 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน เม.ย.ร่วงลง 18.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,130 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย.ร่วงลง 18.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 804.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ เนื่องจากข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่สดใสได้หนุนคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0699 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0858 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5073 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5131 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 121.10 เยน เทียบกับระดับ 121.18 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9988 ฟรังก์ จาก 0.9849 ฟรังก์ สำหรับค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7617 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7713 ดอลลาร์