(เพิ่มเติม) ก.ท่องเที่ยว คาดจำนวนนทท.ผันผวนอีก 1-2 สัปดาห์จากร่วง 7%หลังเหตุระเบิด

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 26, 2015 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากสถานการณ์ในรอบสัปดาห์หลังเกิดเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์หดตัว 7% จากแนวโน้มปกติ และคาดว่าจะผันผวนต่อเนื่องอีก 1-2 สัปดาห์

ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุการณ์ระเบิดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทยอยู่ที่วันละ 8.5 หมื่นคน แต่หลังเกิดเหตุระเบิดวันที่ 17 ส.ค. ตัวเลขนักท่องเที่ยวตกลงมาเหลือวันละ 8 หมื่นคน และ 2-3 วันที่ผ่านมาเหลือวันละ 7 หมื่นคน แต่ก็เป็นตัวแรกที่ตกลงมาไม่มากนัก

ส่วนตัวเลขด้านการประชุม สัมมนามีการยกเลิกประมาณ 3-4 พันคน แต่ได้รวบรวมตัวเลขที่ยังมีการยืนยันการจัดงานในบริเวณพื้นที่ราชประสงค์มีมากกว่าจำนวนที่ยกเลิกไป ซึ่งยังแสดงถึงความมั่นใจ

อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมตั้งแต่วันที่ 1-23 ส.ค.มีจำนวน 2,100,036 คน ยังขยายตัว 31.68% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีสถานการณ์การเมืองในประเทศ

"เหตุการณ์แยกราชประสงค์คงปฏิเสธไม่ได้กับผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งในท่ามกลางบรรยากาศความไม่สงบที่หลายฝ่ายต้องเผชิญ ก็มีหลายประเทศที่มีเจตนาแสดงความเข้าใจและเห็นใจต่อสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้น"

ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนาวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวฯ คาดว่า เหตุระเบิดแยกราชประสงค์จะกระทบบรรยากาศการท่องเที่ยวไม่เกิน 1 เดือน โดยยังมั่นใจเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ที่ 28.8 ล้านคน และทำรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท เนื่องจากครึ่งปีแรกทำได้ดีมาก โดยมั่นใจไตรมาสสุดท้ายจะ Pick up แน่นอน

นอกจากนี้มีแผนการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวและเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวกลับมา โดยในวันที่ 2-3 ก.ย.นี้ จะนำผู้ประกอบการกว่า 300 บริษัท และสื่อมวลชนอีก 30 ราย เดินทางไปร่วมงานโรดโชว์ร่วมกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน เพื่อเปิดตลาดใหม่และนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว

"จนถึงบ่ายวันนี้จำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 20 ล้านคนแล้ว" รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าว

ทั้งนี้ พบว่าหลังเกิดเหตุการณ์ กรุงเทพได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ก็เป็นเฉพาะบางจุด ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวในต่างจังหวัดไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเรามองว่าเป็นเหตุการณ์ที่ Shock แค่ระยะสั้น ระยะกลางถึงระยะยาวคือสิ้นปีนี้ยังมีการ Confirm การเดินทางมาประเทศไทย

นางกอบกาญจน์ กล่าวถึงมาตรการที่จะให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวเองทำประกันชีวิตประกันอุบัติเหตุก่อนขอวีซ่าว่า เรื่องนี้กระทรวงเตรียมหารือกับกระทรวงการคลัง หาแนวทางบังคับใช้กฎหมายให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง ทุกประเทศ โดยเฉพาะชาวเอเชียต้องทำประกันภัย เพื่อช่วยคุ้มครองนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบตามหลักเกณฑ์ของการประกัน รวมไปถึงการประสบอุบัติเหตุต่างๆ อาทิ เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจะได้รับเพียงเงินจากกองทุนเยียวยานักท่องเที่ยวพร้อมเงินสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ เท่านั้น

"เรากำลังดำเนินการเรื่องนี้ คาดว่าอาจจะต้องใช้เวลา"

นายคาร์ลอส โวกเลอร์ รองเลขาธิการองค์การท่องเที่ยวโลก (UNWTO) กล่าวว่า การท่องเที่ยวไทยจะกลับมาเป็นปกติในช่วงไฮซีซั่นอย่างแน่นอน เพราะประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญสวยงามติดอันดับโลก สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวมาเป็นระยะเวลานานหลายปีแล้ว

"ขอสนับสนุนให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบวิถีชีวิตและเศรษฐกิจของประเทศไทย สิ่งสำคัญคือประเทศไทยต้องมีความเข้มแข็งที่จะผ่านเหตุการณ์นี้ไปให้ได้"

ด้านนายเดวิด สโคว์ซิล ประธานสมาคมการเดินทางและท่องเที่ยวโลก (World Travel and Tourism Council : WTTC) กล่าวว่า ในสายตาของชาวต่างชาติมีความเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงประทับใจในความร่วมมือให้การช่วยเหลือทั้งของภาครัฐและเอกชน และยังคงมองเห็นประเทศไทยเป็นดินแดนที่น่าเดินทางมาท่องเที่ยวอีกเช่นเดิม

ด้านพ.ต.อ.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวถึงภารกิจของตำรวจท่องเที่ยวคือ การให้ข้อมูลข่าวสารสถานการณ์แก่นักท่องเที่ยวตามความเป็นจริง รวมทั้งเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยการเพิ่มกำลังพลตามสถานที่สำคัญๆ เช่น สนามบินแห่งชาติทั่วประเทศ ประสานกับหน่วยงานในสังกัด คือ ตำรวจน้ำ ตำรวจทางหลวง ตำรวจรถไฟ ในการเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เฝ้าระวังตรวจตราบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย

"เราจะทำงานสอดคล้องและสอดรับกับนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวนคดี"พ.ต.อ.ศุภเศรษฐ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ