ผู้ว่า ธปท.ชี้ภาคการเงินใน CLMVTเปรียบเหมือนการปลูกต้นไม้ขยายเครือข่าย ชู 5 ปัจจัยเชื่อมโยง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 17, 2016 12:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวสุนทรพจน์หัวข้อ "Financial Connectivity in CLMVT" ในงาน CLMVT Forum 2016 : Towards a Shared Prosperity ว่า การพัฒนาภาคการเงินเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงถือเป็นรากฐานที่สำคัญ และเป็นปัจจัยที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้เราเติบโตได้ การเชื่อมโยงกันระหว่างภูมิภาคเปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้ ถ้าเครือข่ายของต้นไม้ดี ต้นไม้ก็จะเติบโต การเชื่อมโยงทางการเงินกับภาคธุรกิจต่างๆ ก็เช่นกัน หากเชื่อมโยงกันได้ดีเศรษฐกิจก็จะขยายตัว เกิดการลงทุน

แต่หากไม่มีระบบที่มีประสิทธิภาพ ก็ยากที่จะรับมือกับความผันผวนที่จะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นการร่วมมือกันระหว่างรัฐและเอกชนจึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ระบบการเงินแข็งแกร่ง และเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างตรงจุดด้วย

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจการเงินในกลุ่มประเทศ CLMVT ยังมีช่องทางอีกมากที่จะนำเสนอการให้บริการทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆ ออกมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ใช้บริการ ที่นับวันจะมีความต้องการใช้บริการทางการเงินที่มีความทันสมัยและสะดวกสบายมากขึ้น

พร้อมมองว่า ภาคธุรกิจการเงินของไทยควรนำรูปแบบความสำเร็จของธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ แอร์ไลน์) มาใช้เป็นแนวทาง ซึ่งมีนโยบายสำคัญ 5 ปัจจัย ที่จะช่วยเชื่อมโยงภาคการเงินในกลุ่มประเทศ CLMVT ให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ 1. การส่งเสริมให้มีการเปิดเสรีของภาคการเงินในประเทศให้มีความหลากหลายและต้องมีการบูรณาการระหว่างกันในระดับภูมิภาคด้วย เพื่อลดแรงกดดันต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น และเพื่อช่วยส่งเสริมขีดความสามารถที่จะทำให้กลุ่มประเทศดังกล่าวเติบโตได้ในระยะต่อไป โดยในส่วนนี้ ธปท. มั่นใจว่าได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้เป็นอย่างดีผ่านระบบ National e-Payment ซึ่งจะช่วยตอบสนองนักธุรกิจให้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินระหว่างกันในกลุ่มประเทศภาคีได้

2. ไทยควรมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องเครดิตบูโรที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับระบบการเงิน และ ATM Pool ช่วยเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ให้มีการพัฒนาได้ง่ายขึ้น ซึ่งหลายประเทศสามารถร่วมมือระหว่างกันได้ผ่านระบบ e-Payment ที่จะช่วยเชื่อมโยงกลุ่มประเทศอาเซียน และ CLMVT โดยประโยชน์ที่เกิดขึ้น คือ จะช่วยลดค่าใช้จ่าย และช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจ E-Commerce

3. ยกระดับมาตรฐานของกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการเชื่อมโยงอันจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เกิดระบบที่เป็นประโยชน์ในทิศทางเดียว 4.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ต้องเพิ่มขีดความสามารถและทักษะต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตของภูมิภาค และนวัตกรรมใหม่ 5. การยกระดับบริการด้านการเงินเฉพาะด้าน ที่ผ่านมาประเทศไทยได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนในกลุ่ม CLMVT เข้ามาระดมทุนในตลาดทุนไทยได้ เช่น การออกพันธบัตรระดมทุนในรูปของเงินบาท เพื่อไปดำเนินโครงการสาธารณูปโภคในประเทศลาว เป็นต้น พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทข้ามชาติ

"ธปท. มุ่งมั่นทำงานกับภาคีในกลุ่ม CLMVT เพื่อพัฒนาด้านการเงินในหลายเรื่อง แม้จะยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเริ่มต้น แต่ก็พร้อมที่จะร่วมมือกับภาคีและประเทศต่างๆ โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินและการกำกับดูแล ถ้าทำได้ก็จะช่วยให้เราลดค่าใช้จ่าย เป็นประโยชน์กับภาคอุตสาหกรรม แรงงานที่มาทำงานในต่างประเทศจะได้ส่งเงินกลับประเทศได้ง่ายขึ้น การท่องเที่ยวจะมีพลวัตรที่ดีขึ้น ผู้ประกอบการ SMEs ก็จะได้ประโยชน์ในธุรกิจ E-Commerce มากขึ้น" ผู้ว่าฯ ธปท.ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ