รมว.คมนาคม ระดมความเห็นร่างยุทธศาสตร์คมนาคมขนส่งระยะ 20 ปี เร่งผลักดันระบบราง-ยกระดับเชื่อมโยงทุกเครือข่าย

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 9, 2016 16:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เพื่อระดมสมองและรับฟังความคิดเห็นร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 20 ปี จากผู้บริหารระดับสูง และหัวหน้าหน่วยงานส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคมว่า ในการดำเนินงานจะแบ่งออกเป็นระยะๆ ละ 5 ปี (ปี 60-65) ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 8 ปี (ปี 58-65) ที่เน้นขับเคลื่อนโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น รถไฟฟ้า 10 สาย ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2559 และเสร็จสมบูรณ์ครบในปี 2565 นอกจากนี้จะเร่งรัดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 6 เส้นทาง ตามแผนปฏิบัติการ ปี 59 (Action Plan) และในอีก 5 ปีต่อไปจะมีรถไฟทางคู่อีก 6 เส้นทาง โดยจะบรรจุในแผนปฏิบัติการปี 60

นอกจากนี้ แผนพัฒนาระบบคมนาคมจะต้องสอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี พ.ศ.2560-2579 ซึ่งมีเป้าหมาย 3 ประการ คือ 1.ระบบคมนาคมขนส่งที่มีประสิทธิภาพ (Transport Efficiency) 2.การขนส่งที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Transport) มุ่งเน้นการลดใช้พลังงานฟอสซิล ปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดหรือพลังงานทางเลือก และ 3.การเข้าถึงระบบขนส่งอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม (Inclusive Transport) การยกระดับการขนส่งให้สามารถรองรับผู้ใช้งานได้ทุกกลุ่ม

โดยมียุทธศาสตร์ในการดำเนินงาน 5 ข้อ คือ 1.การบูรณาการโครงการคมนาคมขนส่งให้มีความเชื่อมโยงกัน เช่น โครงการท่าเรือจะต้องมองโครงข่ายถนนเพื่อเชื่อมเข้าสู่ท่าเรือด้วย หรือ พัฒนาสนามบินต้องมีระบบขนส่งเชื่อมสนามบินด้วย เป็นต้น 2.การพัฒนาบริการขนส่งสาธารณะ เช่น เร่งรัดโครงข่ายรถไฟฟ้า และรถไฟ นอกจากนี้ยังครอบคลุมไปถึงบริการที่สร้างรายได้ให้กับภาครัฐ เช่น การบินไทย หรือท่าเรือ 3.ปฏิรูปองค์กร กฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ เช่น การแยกบทบาทของหน่วยงานกำกับนโยบาย(Regulator) กับหน่วยงานปฏิบัติ (Operator) ออกจากกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ 4.การพัฒนาบุคลากรด้านคมนาคม ซึ่งปัจจุบันระบบรางมีความขาดแคลน จึงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับเทคโนโลยี และ 5.พัฒนาด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งจะมีการเปลี่ยนผ่านระบบคมนาคมขนส่งรูปแบบเดิม เช่น รถไฟดีเซล ยกระดับเป็นรถไฟใช้ไฟฟ้า รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมการก่อสร้างที่ทันสมัยและปลอดภัยต่างๆ การนำข้อมูลการเดินทางต่างๆ มาจัดระบบการจราจรที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้น

รมว.คมนาคม ยังกล่าวถึงการประกวดราคาโครงการรถไฟทางคู่ในแผนระยะเร่งด่วนปี 59 ที่ยังล่าช้าว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ซึ่งจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นตามขั้นตอนและปรับทีโออาร์ให้เป็นที่ยอมรับและเปิดกว้างเนื่องจากการประกวดราคาจะกำหนดเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์กับกลุ่มใด หรือรายใดรายหนึ่งไม่ได้ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะต้องดูรายละเอียดให้รอบรอบ

นอกจากนี้ ยังได้หารือกับรัฐมนตรีของมาเลเซียในความร่วมมือการพัฒนาระบบรางเชื่อมต่อระหว่าง 2 ประเทศ โดยได้ยืนยันแผนการพัฒนารถไฟทางคู่ของไทย เส้นทางจากกรุงเทพฯ ลงสู่ภาคใต้ ซึ่งแผนล่าสุดเส้นทางจะไปถึงประจวบคีรีขันธ์ และในปี 60 จะต่อขยายไปชุมพร-สุราษฏร์ธานี, สุราษฏร์ธานี-หาดใหญ่ และหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ซึ่งช่วงนี้จะเป็นระบบรถไฟฟ้า เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟมาเลเซียบนรางขนาด 1 เมตร โดยไทยจะพัฒนาสถานีปาดังเบซาร์ และมาเลเซียจะมีการขยายสถานีขนส่งสินค้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ