ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.83/84 แกว่งแคบ รอผลประชุม FOMC มองกรอบพรุ่งนี้ 34.80-34.90

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 19, 2016 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.83/84 บาท/ดอลลาร์ จากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.85/90 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากช่วงนี้ตลาดยังติดตามผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการ เงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ระหว่างวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ว่าจะมีมติอย่างไร แม้ตลาดจะประเมินว่ารอบนี้ FOMC ยังน่าจะคง ดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม แต่ก็ต้องติดตามการออกมาให้ความเห็นอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.80 - 34.90 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.82/84 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102.30 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร เย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.1170/1173 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1170 ดอลลาร์/ยูโร
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ เพื่อหารือถึง
แนวทางการทำงานในช่วงเวลาที่เหลือ 1 ปีเศษ โดยได้กำชับให้ทุกกระทรวงดำเนินงานใน 2 ด้าน คือ ด้านแรก ขอให้ช่วยดูแล
ภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ โดยประคับประคองดูแลความสมดุลของการเติบโตให้ดีต่อเนื่องไป ส่วนอีกด้าน คือ ขอให้ทุกกระทรวงไป
เตรียมการเรื่องการปฏิรูปการทำงาน
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เตรียมเดินทางไปชักจูง
การลงทุนที่ประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนี ระหว่างวันที่ 4-8 ตุลาคมนี้ เพื่อยกระดับเอสเอ็มอีไทยไปสู่เอสเอ็มอี 4.0 และพบหารือกับ
สภานายจ้างฝรั่งเศส ซึ่งมีนโยบายสนับสนุนให้เอสเอ็มอีฝรั่งเศสไปลงทุนในต่างประเทศ
  • นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เชื่อว่า ตราสารหนี้ของไทยเป็นที่น่าสนใจทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากมี
ผลิตภัณฑ์ให้เลือกเพิ่มมากขึ้น ทั้งพันธบัตรรัฐบาล หรือตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อ รวมถึงตราสารหนี้ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีขนาดใหญ่
ขึ้น เพราะนักลงทุนให้ความสนใจ รวมถึงในอนาคตประเทศไทยยังมีตราสารหนี้ที่เกิดจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคต
ประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ ฟันด์) ออกมาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน
  • ปลัดกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการจัดเตรียมรายละเอียดของมาตรการเพื่อช่วยเหลือสวัสดิการของผู้มีรายได้
น้อยใน 2 มาตรการ หลังจากที่เปิดให้มีการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย และมีผู้สนใจกว่า 8.3 ล้านราย โดยเบื้องต้นได้มีการเสนอ
ให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังพิจารณาแล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 59
  • ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) เปิดเผยว่า ภาคธนาคารจีนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
อย่างต่อเนื่อง หลังผลการทดสอบพบว่า ภาคธนาคารจีนมีอัตราส่วนสินเชื่อต่อขนาดเศรษฐกิจของประเทศ (credit-to-GDP) แตะ
30.1 ในไตรมาสแรกของปี 2559 ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับขีดอันตรายที่ทาง BIS กำหนดไว้ที่ 10
  • นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) และธนาคาร
กลางญี่ปุ่นที่จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ โดยกระแสคาดการณ์ในส่วนของ FOMC นั้น นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ธนาคาร
กลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่จะจับตาแถลงการณ์การประชุมเพื่อพิจารณาแนวโน้มของ
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

ส่วนการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) นั้น นักวิเคราะห์คาดว่า BOJ จะผ่อนคลายมาตรการด้านการเงินเพิ่ม เติม และคาดว่า BOJ อาจจะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรเป็น 100 ล้านล้านเยน จากระดับปัจจุบันที่ 80 ล้านล้านเยนต่อปี พร้อม คาดการณ์ด้วยว่า BOJ อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับติดลบ 0.3% จากระดับปัจจุบันที่ติดลบ 0.1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ